สื่อประชาสัมพันธ์

สถานการณ์ราคาน้ำมัน

สื่อประชาสัมพันธ์

สถานการณ์ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวจากตลาดติดตามผลกระทบทางการค้า

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวจากตลาดติดตามผลกระทบทางการค้า
โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
  • วันที่ 30 ต.ค. 68 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump และประธานาธิบดีจีน นาย Xi Jinping เจรจาข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้น ณ เมือง Busan ในเกาหลีใต้ โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในส่วนการลักลอบขนส่งยา Fentanyl จากเดิม 20% มาอยู่ที่ 10% ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนโดยเฉลี่ยลดลงจาก 57% มาอยู่ที่ 47% โดยจีนจะกวาดล้างการค้า Fentanyl ผิดกฎหมาย กลับมานำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และชะลอการควบคุมการส่งออกแร่ Rare Earth เป็นเวลา 1 ปี เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้ลงนามเป็นข้อตกลงทางการค้าฉบับสมบูรณ์
  • ตลาดติดตามการประชุมของกลุ่ม OPEC+ (8 ประเทศ) ในวันที่ 2 พ.ย. 68 ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมติเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. 68 ในส่วนที่เคยอาสาลดการผลิตโดยสมัครใจอีก 137 KBD/เดือน 
  • บริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินเดีย Indian Oil Corp. (IOC) ซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ปริมาณรวม 24 MMB ส่งมอบไตรมาส 1/69 โดยบริษัทเริ่มมองหาโอกาสในการนำเข้าน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น และชะลอการนำเข้าจากรัสเซีย หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมัน Rosneft และ Lukoil ของรัสเซีย
17 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ คว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม 14 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบลดลงจากสงครามการค้า (Trade War) รุนแรงขึ้น 13 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ชะลอตัว 12 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า 11 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความกังวลผลกระทบของมาตรการกำแพงภาษีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ 10 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump ขู่จะคว่ำบาตรรัสเซีย 07 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากตลาดจับตาความไม่แน่นอนของนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ 06 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบลดลงจากตลาดกังวลเศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนในนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ 05 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบลดลงจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า 04 มีนาคม 2568 ราคาน้ำมันดิบลดลงหลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 20% ขณะที่ประกาศขึ้นภาษีสำหรับแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25%