ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ

โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- ความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนยังไม่สามารถเชื่อมั่นว่าคำสั่งศาลที่ยับยั้งมาตรการกำแพงภาษีจะมีผลถาวร และล่าสุดศาลอุทธรณ์ระงับคำสั่งดังกล่าวของศาลแล้ว
- วันที่ 29 พ.ค. 68 รมว.กระทรวงพลังงานของคาซัคสถาน นาย Yerlan Akkenzhenov กล่าวว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจบังคับบริษัทน้ำมันต่างชาติที่ควบคุมการผลิตน้ำมันดิบกว่า 70% และไม่สามารถแทรกแทรงการผลิตจากแหล่งของรัฐวิสาหกิจเช่นกัน ทั้งนี้ คาซัคสถานผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. 68 อยู่ที่ 1.77 MMBD สูงกว่าโควตาภายใต้ข้อตกลง OPEC+ อยู่ที่ 1.47 MMBD
10 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs)
09 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
08 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จากผลกระทบของสงครามการค้า (Trade War)
04 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบลดลงจาก OPEC+ ประกาศเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันมากกว่าตลาดคาด
03 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแม้มีแรงกดดันด้านเศรษฐกิจจากมาตรการศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump
02 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากตลาดกังวลผลกระทบมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump
01 เมษายน 2568
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากอุปทานน้ำมันตึงตัวหากประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นาย Donald Trump จะเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมต่อรัสเซียและอาจโจมตีอิหร่าน