สื่อประชาสัมพันธ์

สถานการณ์ราคาน้ำมัน

สื่อประชาสัมพันธ์

สถานการณ์ราคาน้ำมัน

สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 6-10 ม.ค. 63 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 13-17 ม.ค. 63


สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 6-10 ม.ค. 63 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 13-17 ม.ค. 63
โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • วันที่ 8 ม.ค. 63 อิหร่านเปิดฉากยิงจรวดหลายสิบลูกโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ 2 แห่งในอิรัก โดยไม่เกิดความสูญเสียกับทหารสหรัฐฯ ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านลดลง ประกอบกับรัฐบาลอิหร่านต้องแก้ปัญหาในประเทศที่ประชาชนประท้วงกรณีกองทัพอิหร่านยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกและไม่แจ้งความจริงแก่ประชาชน
  • ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นาง Nancy Pelosi เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติความรุนแรงและจะใช้มาตรการทางกฎหมายจำกัดอำนาจของประธานาธิบดี Trump ในการสั่งการด้านการทหารในอิหร่าน ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 224 เสียง ต่อ 194 เสียง ส่งผลให้ประธานาธิบดี Trump ต้องขออนุมัติสภา Congress ก่อนใช้กำลังทางทหาร ซึ่งการผ่านญัตติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสมาชิกพรรค Democrat แสดงความไม่พอใจต่อการที่ประธานาธิบดี Trump ไม่ได้แจ้งต่อรัฐสภา ก่อนลอบสังหารนายพล Soleimani ของอิหร่าน
  • เลขาธิการกลุ่ม OPEC นาย Mohammed Barkindo กล่าวว่าโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานในอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับ 2 ในกลุ่ม OPEC ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงในอิรัก ทั้งนี้โลกมีกำลังการผลิตส่วนเกิน (Spare Capacity) อยู่ที่ 3.0-3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่วนใหญ่อยู่ในซาอุดิอาระเบีย ล่าสุด รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นาย Suhail al-Mazrouei แถลงว่าการขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz ในขณะนี้ยังไม่มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายและปิดเส้นทางเดินเรือ
  • Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.2 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 431.1 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ 
  • คูเวตและซาอุดิอาระเบียจะผลิตน้ำมันดิบจากบริเวณ Neutral Zone ปริมาณ 250,000 บาร์เรลต่อวัน จากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Khafji และ Wafra ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563 หลังหยุดดำเนินการผลิต ช่วงปี พ.ศ. 2557 เพราะข้อพิพาทด้านพรมแดน

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC (14 ประเทศ) เดือน ธ.ค. 62 ลดลงอยู่ที่ 29.50 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันดิบ ลดลงจากเดือนก่อน 50,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 9.80 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าที่ตกลงกับกลุ่ม OPEC+ ที่ 10.311 ล้านบาร์เรลต่อวัน ระดับความร่วมมือในการลดปริมาณการผลิตอยู่ที่ 259%
    • Reuters รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา ในปี พ.ศ. 2562 ลดลงจากปีก่อน 32% อยู่ที่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่งออกให้บริษัท Rosneft (34%) ในรัสเซีย, บริษัท CNPC (11%) ในจีน และบริษัทน้ำมันแห่งชาติของคิวบา Cubametales (7%)
    • ICE รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 63 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 15,233 สัญญา มาอยู่ที่ 425,763 สัญญา
    • CFTC รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 63 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับ Net Long Position เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5,078 สัญญา มาอยู่ที่ 331,553 สัญญา
    • Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 11 แท่น มาอยู่ที่ 659 แท่น ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 และต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 60

แนวโน้มราคาน้ำมัน                

            ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนในตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ประกอบกับการลงนามข้อตกลงการค้า (Phase 1) ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. 63 หรือไม่ แม้ว่าฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump จะเชิญผู้เกี่ยวข้องกว่า 200 คนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงการค้าครั้งนี้ แต่ทั้งสองประเทศยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านยังมีแนวโน้มยืดเยื้อ ล่าสุดวันที่ 11 ม.ค. 63 รมว. กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นาย Mike Pompeo ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้อิหร่านที่โจมตีกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรักด้วยขีปนาวุธ โดยมีมาตรการคว่ำบาตรต่อภาคการผลิต สิ่งทอ และ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านอีก 8 ราย ให้จับตาความร้อนแรงในตะวันออกกลาง หลังกองทัพอิหร่านออกมายอมรับว่ายิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา และเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ (Human error) ทำให้เกิดกระแสตีกลับไปยังรัฐบาล โดยประชาชนชาวอิหร่านจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วง เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำดังกล่าว รวมถึงการปกปิดข้อมูลความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ Tweet ข้อความเป็นภาษาอิหร่าน ว่าอย่าฆ่าผู้ประท้วง “DO NOT KILL YOUR PROTESTERS” และควรเปิดให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างเสรี นอกจากนี้ทางสหรัฐฯ กำลังจับตาดูการกระทำของรัฐบาลอิหร่านอย่างใกล้ชิด ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 62-67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ  63-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 

สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน

            ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงเนื่องจากแรงขายของ จีน, อินเดีย, มาเลเซีย และ ไต้หวัน ประกอบกับ EIA รายงานปริมาณสำรอง Gasoline เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 9.1 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 251.6 ล้านบาร์เรล  และ IES รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 460,000 บาร์เรล อยู่ที่ 12.06 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์  ทั้งนี้ผู้ค้าจับตามองสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจมีผลกระทบต่อการขนส่ง Light Distillates  อย่างไรก็ตาม บริษัท Motiva ประกาศปิดซ่อมบำรุงหน่วย FCC (กำลังการกลั่น 81,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่น Port Arthur (กำลังการกลั่น 607,000 บาร์เรลต่อวัน) มลรัฐเท็กซัส ในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 63 เป็นเวลา 50 วัน  และ บริษัท Pertamina ของอินโดนีเซียมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น Balikpapan (กำลังการกลั่น 260,000 บาร์เรลต่อวัน) ในช่วงปลายเดือน ก.ค. 63  ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ     70.5-75.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล

            ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงเนื่องจาก Platts รายงานว่าสภาพภูมิอากาศในยุโรปตะวันตก เดือน ธ.ค. 62 อบอุ่นกว่าปกติ 15% ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทำความอบอุ่นลดลง 265,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับสภาวะอากาศหนาวเย็นตามปกติ และ Platts รายงานความต้องการน้ำมันดีเซลชะลอตัวก่อนถึงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน (Lunar New Year) อีกทั้ง Platts คาดการณ์ปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีน เดือน ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 700,000-1.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 14.9-15.6 ล้านบาร์เรล ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 139.1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Reuters รายงานอุปสงค์ Middle Distillate ในตลาดเอเชีย สัปดาห์สิ้นสุด 3 ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้เป็นส่วนผสม (Blending) เพื่อผลิต Bunker ให้ได้ตามมาตรฐานคุณภาพ IMO 2020 ประกอบกับโรงกลั่น Saudi Aramco Total Refining and Petrochemical Co. (SATORP: กำลังการกลั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน) ของซาอุดิอาระเบีย มีแผนหยุดซ่อมบำรุงบางส่วนตั้งแต่ 13 ม.ค. - 29 ก.พ. 63 และ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ม.ค. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.14 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 9.65 ล้านบาร์เรล ทางเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 77-82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล