โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- สถานการณ์ COVID-19 ซึ่งยังน่าวิตก ประกอบกับปัญหาในการผลิตและจัดส่งวัคซีน ซึ่งล่าสุด ทางบริษัท Pfizer เปิดเผยว่าจัดส่งวัคซีนในยุโรปได้ล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ในช่วงปลายเดือน ม.ค. - ต้นเดือน ก.พ. 64 ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของสวีเดน เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย และเอสโตเนีย ส่งจดหมายไปยังคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ให้กดดันบริษัท Pfizer และบริษัท BioNTech โดยชี้ว่าความล่าช้าดังกล่าวกระทบต่อความน่าเชื่อถือโดยรวมของวัคซีน
- นาง Janet Yellen ว่าที่ รมว. กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนัก (“act big”) ในมาตรการเยียวยา COVID-19 ทั้งนี้ นาย Joe Biden ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอมาตรการมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งต้องรอรัฐสภาลงมติ
- บริษัท Reliance Industries ของอินเดีย, บริษัท Repsol ของสเปน และบริษัท Eni ของอิตาลี มีแผนเรียกร้องให้นาย Joe Biden ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกเลิกการห้ามซื้อน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาโดยแลกเปลี่ยนกับน้ำมันดีเซล ทั้งนี้ แม้สหรัฐฯ จะคว่ำบาตรเวเนซุเอลาแต่เปิดช่องทางดังกล่าวมาโดยตลอดเพื่อมนุษยธรรม มิฉะนั้น ประชาชนชาวเวเนซุเอลาจะประสบความลำบากหากขาดแคลนน้ำมันดีเซลจนกระทั่งปลายปี 2563 นาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งห้ามการค้าด้วยวิธีดังกล่าว
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistics - NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Refinery Throughput) ในเดือน ธ.ค. 63 เพิ่มขึ้น 2.1% YoY อยู่ที่ 14.13 MMBD และในปี 2563 เพิ่มขึ้น 3% YoY อยู่ที่ 13.45 MMBD
- สำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 4/63 อยู่ที่ +6.4% YoY (ขยายตัวมากกว่า +4.9% YoY ในไตรมาสที่ 3/63) ทำให้ GDP ในปี 2563 อยู่ที่ +2.3% YoY ต่ำสุดในรอบ 4 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม จีนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2563 ทั้งนี้คาดการณ์ว่า GDP จีนในปี 2564 จะอยู่ที่ +8.4% YoY