ราคาน้ำมันดิบทรงตัวจากท่ามกลางการติดตามสถานการณ์เจรจาสงบศึกระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่อียิปต์ รวมถึงสถานการณ์หาทางออกของ Government Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลายเมื่อเข้าสู่วันที่ 8
โดยทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- ตลาดติดตามสถานการณ์เจรจาสงบศึกระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่อียิปต์ รวมถึงสถานการณ์หาทางออกของ Government Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลายเมื่อเข้าสู่วันที่ 8 ขณะที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ในวันที่ 28-29 ต.ค. 68 โดย CME Group's FedWatch คาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 3.75%-4.00% จากเนื่องจากมีข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากในสัปดาห์ที่แล้วที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนแอลง
- ธนาคารโลก (World Bank) ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีน ในปี 2568 มาอยู่ที่ +8% YoY และในปี 2569 อยู่ที่ +4.2% YoY (เพิ่มขึ้นจากประมาณการในเดือน เม.ย. 68 ที่ +4.0% YoY ทั้งปี 2568 และ 2569) ทั้งนี้ การเติบโตในปี 2569 ลดลง เนื่องจากคาดว่าการส่งออกจะ แม้จะเติบโตแต่จะชะลอตัว และนโยบายสนับสนุนทางการคลังมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น
- EIA คาดว่าสหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันดิบในปี 2568 เพิ่มขึ้น 09 MMBD YoY อยู่ที่ 13.53 MMBD (คาดการณ์ครั้งก่อนที่ 13.44 MMBD) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งนอกชายฝั่งบริเวณอ่าวของสหรัฐฯ ในปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.89 MMBD (ครั้งก่อนที่ 1.84 MMB) จากความพยายามของประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นาย Donald Trump ที่จะยกเลิกกฎระเบียบอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อสนับสนุนการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้น