ข้อเท็จจริงประเด็น ปตท.

       หลายท่านอาจมีข้อสงสัย แปรรูป ปตท. ทำไม แปรรูปไปแล้วใครได้ประโยชน์ บทความนี้จะมาอธิบายประเด็นนี้ให้ทุกท่านฟังกัน

ข้อเท็จจริงเพื่อตอบประเด็นนี้

       “การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย” ก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2521 ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เป็นช่วงที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยประสบกับภาวะน้ำมันขาดแคลน (วิกฤติการณ์น้ำมันโลกครั้งที่ 2 ) โดยมีวัตถุประสงค์ขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจหลักด้านปิโตรเลียมและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม ซึ่งช่วยในการจัดหาน้ำมันให้เพียงพอกับความต้องการการใช้ในประเทศอย่างเร่งด่วน

       ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2539 ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด หนี้ต่างประเทศ การลงทุนเกินตัว และอื่นๆ ทำให้ทางการสูญเสียเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในการปกป้องค่าเงินบาทไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2540 เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย หรือ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เกิดภาวะค่าเงินบาทอ่อนตัว รัฐจึงต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund หรือ IMF) กว่า 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

       ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 จึงได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. โดยการแปรรูป จากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 ซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ

       สำหรับประโยชน์ของการแปรรูปนั้น คือ ลดการพึ่งพางบประมาณของรัฐฯ ประเทศสามารถชำระเงินกู้ IMF ได้ก่อนกำหนด 2 ปี และ ปตท. สามารถส่งเงินรายได้ให้กับภาครัฐในรูปแบบภาษีเงินได้ และเงินปันผล

สรุป

ประเด็นที่พบ: ทำไมต้องแปรรูป ปตท. / แปรรูป ปตท. แล้วใครได้ประโยชน์ / แปรรูป ปตท. แล้วชาติเสียผลประโยชน์
ข้อเท็จจริง: จุดประสงค์ของการแปรรูป ปตท. เพื่อเป็นการระดุมทุนจากตลาดหุ้น ไปช่วยฟื้นฟูธุรกิจโรงกลั่นที่ประสบปัญหาในยุค IMF โดยเมื่อเข้าสู่การแปรรูปแล้วทำให้มีเงินนำส่งรัฐมากขึ้นในรูปภาษี และเงินปันผล สามารถจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม และสร้างความมั่นคง ทางด้านพลังงานให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้ ปตท. มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น มีผลประกอบการดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนแปรรูป