การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน |
![]() ![]() |
การสนับสนุนเครือข่ายด้านความยั่งยืนGRI 2-28
ปตท. ตระหนักดีว่าการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงและปลอดภัยอย่างยั่งยืน และสมดุลในทุกมิตินั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศและสากลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ปตท. จึงมุ่งเน้นเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืนทั้งภายในและภายนอก กลุ่ม ปตท. ทั้งที่เป็นองค์กร สมาคมการค้า สถาบัน องค์กรของรัฐและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยยึดมั่นในนโยบายด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบองค์กร การต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน และคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ ในการพิจารณาตัดสินใจให้การสนับสนุน/ ร่วมมือกับพันธมิตรและเครือข่ายดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้
จุดยืนและรูปแบบการสนับสนุนเครือข่ายด้านความยั่งยืน
ปตท. กำหนดจุดยืนในการสนับสนุน/ เข้าร่วมเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืน “เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน มุ่งแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างทันท่วงที เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในระยะยาว รวมทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส” โดยกำหนดรูปแบบของการสนับสนุนเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืนด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมสมาชิกเป็นหลักเท่านั้น ไม่มีกิจกรรมหรือการสนับสนุนเพื่อชี้นำทางการเมืองหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด (Lobby) ไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินหรือทรัพยากรใด ๆ แก่พรรคการเมืองหรือองค์กรหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองหรืออื่น ๆ นอกเหนือจากการจ่ายภาษีตามหน้าที่และการจ่ายเงินอื่น ๆ ให้กับรัฐบาลซึ่งเป็นไปตามหลักการและคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของ ปตท.
ปตท. มุ่งเน้นพิจารณาให้การสนับสนุนเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืนที่มีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้
- พัฒนาและส่งเสริมการสร้างแนวปฏิบัติที่ดีด้านความยั่งยืน สิทธิมนุษยชน และ SSHE ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซและที่เกี่ยวข้อง
- สนับสนุนการดำเนินธุรกิจตามนโยบายและเป้าหมายของประเทศไทย ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามข้อตกลงปารีส (Climate-related direct lobbying activities)
การกำกับดูแลการสนับสนุนเครือข่ายด้านความยั่งยืน
ปตท. มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ ดังนี้
- ระดับคณะกรรมการ: ให้ความเห็น และอนุมัติ การเข้าร่วมกิจกรรมในเครือข่ายด้านความยั่งยืนรวมถึงกิจกรรมล๊อบบี้ ที่ได้รับการรายงานจากสายงานฝ่ายจัด ตามระเบียบประจำปีที่กำหนด
- ระดับฝ่ายจัดการ: กำหนดให้สายงานผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์และบริหารความยั่งยืน รับผิดชอบในการกลั่นกรองและให้ความเห็นการตัดสินใจเข้าร่วม ติดตามและทบทวน และเสนอต่อคณะกรรมการฯ หรือผู้บริหารที่มีอำนาจในการเห็นชอบตามที่กำหนดเป็นประจำทุกปี
กระบวนการติดตามและทบทวนความสอดคล้องของจุดยืนและกิจกรรมของเครือข่ายด้านความยั่งยืนที่ปตท. เข้าร่วม กับความตกลงปารีส
การเข้าร่วมหรือเป็นสมาชิกเครือข่ายด้านความยั่งยืน จะพิจารณาจากวัตถุประสงค์และกิจกรรมการดำเนินงานของเครือข่ายว่ายังสอดคล้องหรือเบี่ยงเบนไปจากจุดยืนในการสนับสนุน/ เข้าร่วมเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืนของ ปตท. หรือไม่ หากพบว่าเครือข่ายและพันธมิตรใดมีวัตถุประสงค์หรือกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางและเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน รวมถึงการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามความตกลงปารีส บริษัทจะพิจารณาบทบาทในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ และหารือกับเครือข่ายและพันธมิตรเพื่อทบทวน/ปรับปรุงการดำเนินงานภายในกรอบเวลาที่ชัดเจน หากไม่สามารถดำเนินการต่อได้ บริษัทจะยกเลิกการเป็นสมาชิกกับเครือข่ายและพันธมิตรดังกล่าวรายการสนับสนุนเครือข่ายด้านความยั่งยืน
ในปี 2567 ปตท. ทำการทบทวนรายการเครือข่ายและพันธมิตรในระดับประเทศและสากล ทั้งในรูปแบบองค์กร สมาคมการค้า สถาบัน องค์กรของรัฐและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่ ปตท. เข้าร่วมและเป็นสมาชิก พบว่า ทุกรายการยังคงมีวัตถุประสงค์และมีการดำเนินโครงการ/ กิจกรรมที่สอดคล้องกับจุดยืนและเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน ตลอดจนการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามข้อตกลงปารีสของ ปตท. ดังนี้
ความร่วมมือเครือข่ายและพันธมิตรด้านความยั่งยืนในระดับประเทศและสากลGRI 2-28
เครือข่าย/ พันธมิตร |
ระดับ |
วัตถุประสงค์ของเครือข่ายและพันธมิตร |
บทบาทของ ปตท. และการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2567 |
---|---|---|---|
![]() สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (Federation of Thai Industries: F.T.I.) |
ประเทศ |
|
|
![]() |
ประเทศ |
|
|
![]() (World Business Council for Sustainable Development: WBCSD) |
สากล |
|
|
![]() สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (Petroleum Institute of Thailand: PTIT) |
ประเทศ |
|
|
![]() |
ประเทศ |
|
|
|
ประเทศ |
|
|
![]() |
สากล |
|
|
![]() |
ประเทศ |
|
|
![]() |
สากล |
|
|
|
ประเทศ |
|
|
|
ประเทศ |
|
|
|
สากล |
|
|
![]() สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน |
ประเทศ |
|
|
![]() (Thailand Carbon Neutral Network: TCNN) |
ประเทศ |
|
|
ค่าสมาชิกเครือข่ายและพันธมิตรที่ ปตท. เข้าร่วมเป็นสมาชิกGRI 2-28, GRI 415-1
ในปี 2567 จำนวนค่าสมาชิก 5 อันดับแรก ได้แก่ สภาเศรษฐกิจโลก (WEF) สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (PTIT) สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
องค์กร | ประเภท | ค่าสมาชิก / ค่าการสนับสนุนทางการเมือง (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|
2564 | 2565 | 2566 | 2567 | ||
การสนับสนุนทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการการล็อบบี้ การเป็นตัวแทนผลประโยชน์ | Contributions in Lobbying, interest representation or similar | 0 | 0 | 0 | 0 |
การสนับสนุนทางการเงินในแคมเปญทางการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค หรือระดับชาติ/ องค์กร/ ผู้สมัคร | Contributions in local, regional or national political campaigns/ organizations/ candidate | 0 | 0 | 0 | 0 |
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (F.T.I.) | สมาคมการค้า | 359,520 | 363,520 | 342,400 | 350,960 |
หอการค้าไทย | สมาคมการค้า | 24,610 | 24,610 | 24,610 | 24,610 |
สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 3,201,138 | 3,434,895 | 3,594,600 | 3,867,000 |
สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (PTIT) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 4,139,536 | 3,973,736 | 3,922,725 | 4,030,167 |
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 535,000 | 535,000 | 535,000 | 535,000 |
สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (Thai LCA) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 26,750 | 26,750 | 26,750 | 26,750 |
สภาเศรษฐกิจโลก (WEF) | สมาคมการค้า | 6,495,660 | 7,616,869 | 7,351,938 | 7,107,858 |
องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 500,000 | 250,000 | 250,000 | 250,000 |
ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | 595,046 | 653,798 | 1,050,000 | 1,050,000 |
สมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE100) | เครือข่าย/สมาคม/สถาบันด้านความยั่งยืน | - | 55,350 | 2,140 | 2,140 |
- | อื่น ๆ (ไม่เกี่ยวข้องกับการลงคะแนนเสียง) | 0 | 0 | 0 | 0 |
รวม | 15,877,260 | 16,934,528 | 17,100,163 | 17,244,485 |
ความร่วมมือเครือข่ายภาคพลังงานในประเทศGRI 2-28
ปตท. ร่วมกับ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) พัฒนาระเบียบวิธีการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ (Premium T-VER Methodology) สำหรับโครงการประเภทการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ ในชั้นหินทางธรณีวิทยาใต้ดิน (Carbon Capture and Storage: CCS) โดยจัดทำ (ร่าง) ระเบียบวิธีฯ นำเสนอและหารือกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศ (Thailand’s Long-Term Low Greenhouse Gas Emission Development Strategy: LT-LEDS) ซึ่ง CCS เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ
ในปี 2567 ปตท. ในฐานะองค์กรพลังงานของไทย ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และเครือข่ายความยั่งยืน (เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย) ในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2024) เพื่อแบ่งปัน ถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ภาคประชาชน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 1,620,000 บาท
บทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ: การพัฒนาพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi)
จากการเข้าร่วมในเครือข่ายด้านความยั่งยืนของสถาบันและองค์กรต่าง ๆ ข้างต้น ปตท. ยังประสบความสำเร็จในการริเริ่มสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) ณ พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ให้มีระบบนิเวศนวัตกรรมที่สมบูรณ์ เป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมขั้นสูงของประเทศ ที่สามารถต่อยอดสู่การใช้งาน โดยได้รับการสนับสนุนในการประกาศผังเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ และสิทธิประโยชน์ จากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และได้รับการสนับสนุนเรื่องสิทธิประโยชน์ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment of Thailand: BOI)
ปตท. ได้พัฒนาพื้นที่โครงการโดยสร้างพื้นที่ให้มีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ที่ทันสมัยท่ามกลางการคงรักษาพื้นที่สีเขียวและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญ ดังนี้
- บริษัท โกลบอล พาวเวอร์ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) พัฒนา ออกแบบและบริหารจัดการระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Renewable Energy) รวมทั้งการวางแผนและบริหารจัดการพลังงานในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์อย่างมีประสิทธิภาพ
- บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอน์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) ดำเนินกิจการบำบัดน้ำเสียด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยหมุนเวียนน้ำเสียกลับมาใช้ประโยชน์ในการรดน้ำต้นไม้ในโครงการ รองรับผู้ใช้งานในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยีด้านการบำบัดน้ำเสียให้ผู้ที่สนใจต่อไปได้ในอนาคต
- บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (East water) ดำเนินกิจการผลิตและให้บริการน้ำประปาในพื้นที่โครงการ
นอกจากนี้ ในปี 2566 ปตท. ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นเมืองอัจฉริยะครบทั้ง 7 ด้าน (Smart City) อันดับที่ 1 ของประเทศไทย ในการจัดอันดับเมืองอัจฉริยะตามพื้นที่จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ซึ่ง ปตท. ได้สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศการพัฒนาพื้นที่ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนี้
1. การเป็นพื้นที่ศูนย์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมขั้นสูงของประเทศ โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญ ดังนี้
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดตั้งศูนย์นวัตกรรม (EECi Headquarter) เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการวิจัยและนวัตกรรมครบวงจรของประเทศ 4 ด้าน ดังนี้
- โครงการวิจัยงานด้าน BIOPOLIS การพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้เศรษฐกิจฐานชีวภาพ
- โครงการวิจัยงานด้าน ARIPOLIS การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และ Intelligence System
- โครงการวิจัยงานด้าน SPACE INNOPOLIS การพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยาน เทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ จากการเป็นศูนย์กลางและฐานการผลิต
- โครงการวิจัยงานด้าน FOOD INNOPOLIS การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
- สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (สซ.) ในปี 2569 สซ. มีแผนเริ่มก่อสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนใหม่ ที่ระดับพลังงาน 3 GeV ภายในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ และเปิดดำเนินการในปี 2577 โดยเป็นศูนย์กลางวิจัยด้านแสงซินโครตรอนชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สามารถนำไปใช้ประโยชน์งานวิจัยวิทยาศาสตร์พื้นฐาน การวิเคราะห์คุณสมบัติของอะตอม โมเลกุล มุ่งเน้นงานวิจัยด้านการแพทย์ – เกษตร – อุตสาหกรรม และอื่น ๆ
2.1 พื้นที่ต้นแบบการทดสอบทดลองการวิจัยและพัฒนาโดรน (Unmanned Aerial Vehicle (UAV) Regulatory Sandbox) แห่งแรกของประเทศ ให้บริการพื้นที่ทดสอบโดรน อาทิ การทดสอบโดรนแท็กซี่ การบินแบบนอกระยะสายตา โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญ ดังนี้
- สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) มีหน้าที่กำกับ ดูแลกฎระเบียบ ข้อกำหนดและเป็นผู้อนุญาตในการดำเนินงานทดสอบทดลองเกี่ยวกับอากาศยาน มีความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนาสำหรับอากาศยานไร้คนขับ “UAV Regulatory Sandbox” หรือการอนุญาตให้สามารถบินโดรนเพื่อการวิจัยนวัตกรรมได้ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
- สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) มีความร่วมมือในการพัฒนาโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบระบบนิเวศและนวัตกรรม เพื่อยกระดับพื้นที่โครงการวังจันทร์วัลเลย์เป็นเมืองนวัตกรรมต้นแบบ ด้านอากาศยานไร้คนขับ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา วิจัยพัฒนา ทดสอบทดลอง โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงพัฒนาบุคลากรด้านอากาศยาน ไร้คนขับ และนวัตกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านอากาศยานไร้คนขับของประเทศไทย
- บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรและนวัตกรรม เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (AeroThai Metroplex) ภายในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมขั้นสูง และพัฒนาองค์ความรู้รูปแบบใหม่ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรด้านการบินอย่างต่อเนื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการและระบบ เพื่อการใช้งานสำหรับภารกิจและต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาภารกิจ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
- สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมพัฒนาโครงการทดลองทดสอบเหตุการณ์การบิน ด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อการแพทย์ฉุกเฉิน สร้างความมั่นคงของประเทศด้านสุขภาพให้สามารถเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งเป็นต้นแบบการบริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
- กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ตั้งสนามทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (Connected and Autonomous Vehicle : CAV Proving Ground) สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายแห่งอนาคต (Future Mobility) เพื่อช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการทดสอบ สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และร่วมพัฒนาวังจันทร์วัลเลย์ให้เป็นเมืองของการทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ CAV Sandbox โดยใช้ถนนโครงการเป็น Proving Ground ระดับ Semi-Public Road ก่อนที่จะทดสอบการวิ่งจริงบนถนนสาธารณะภายนอก
- สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้อนุญาตให้ ปตท. เป็นผู้ประสานงานพื้นที่กำกับดูแลเป็นการเฉพาะ โดยมีพื้นที่ที่สามารถใช้คลื่นความถี่พิเศษ เพื่อพัฒนาและทดสอบนวัตกรรม (Regulatory Sandbox) ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์
- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (DTAC) สนับสนุนการใช้งานระบบ “5G Playground” เพื่อการทดลองทดสอบนวัตกรรมที่จำเป็นต้องใช้โครงข่าย 5G เช่น อุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ หรือระบบอุตสาหกรรมอัจฉริยะในหลากหลายรูปแบบ
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จัดทำโครงการต้นแบบ ERC Sandbox ร่วมกันในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าในพื้นที่ EECi ให้มีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากโครงการนำร่องบนพื้นที่ EECi ในการทดลองทดสอบการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าสะอาดระหว่างองค์กร ผ่าน Trading Platform ของ กฟภ.
ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact: UNGC)
ปตท. เข้าร่วมเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อสนับสนุนหลักการ 10 ประการของ UNGC ที่ครอบคลุมประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต ในฐานะสมาชิก ปตท. ได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าประจำปี (Communication on Progress: CoP) หรือรายงานความยั่งยืนประจำปี ให้ UN Global Compact เพื่อเปิดเผยผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
กลุ่ม ปตท. บริหารจัดการความยั่งยืนไปในทิศทางเดียวกัน โดยใช้นโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนของ ปตท. ในการกำกับดูแล และดำเนินงานตามแนวทางของมาตรฐานการบริหารจัดการความยั่งยืน ปตท. เพื่อสนับสนุนหลักการ 10 ประการของ UN Global Compact
หลักการ 10 ประการของ UN Global Compact
สิทธิมนุษยชน
หลักการที่ 1: สนับสนุนและเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามที่ประกาศใช้ในระดับสากล
หลักการที่ 2: หมั่นตรวจตราดูแลมิให้ธุรกิจของตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน
มาตรฐานแรงงาน
หลักการที่ 3: ส่งเสริมสนับสนุนเสรีภาพในการรวมกลุ่มของพนักงานและการรับรองสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรองอย่างจริงจัง
หลักการที่ 4: ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการใช้แรงงานเกณฑ์ และแรงงานที่ใช้การบังคับในทุกรูปแบบ
หลักการที่ 5: ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการใช้แรงงานเด็กอย่างจริงจัง
หลักการที่ 6: ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการเลือกปฏิบัติในเรื่องการจ้างแรงงานและการประกอบอาชีพ
สิ่งแวดล้อม
หลักการที่ 7: สนับสนุนแนวทางการป้องกันในการดำเนินงานที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
หลักการที่ 8: จัดทำกิจกรรมที่ส่งเสริมการยกระดับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
หลักการที่ 9: ส่งเสริมการพัฒนาและการเผยแพร่เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การต่อต้านการทุจริต
หลักการที่ 10: ดำเนินงานเพื่อต่อต้านการทุจริต การกรรโชก และการให้สินบนทุกรูปแบบ
-
การกำกับดูแลความยั่งยืน
- กลยุทธ์ นโยบาย และการบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน
- การกำกับดูแลและธรรมาภิบาล
- การปฏิบัติที่เป็นธรรม
- ระบบการบริหารจัดการด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
- การบริหารความเสี่ยงเเละภาวะวิกฤต
- การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- เครือข่ายด้านความยั่งยืน
- การเปิดเผยข้อมูลและการประเมินผลด้านความยั่งยืน
- ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
- มิติด้านเศรษฐกิจ
- มิติด้านสิ่งแวดล้อม
- มิติด้านสังคม