ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สังคมและชุมชน ในหลากหลายมิติ ส่งเสริมการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าที่ 4, 7 และ 8 โดยมุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ ส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต ส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานสะอาด การพัฒนาทักษะอาชีพและโอกาสในการสร้างรายได้แก่สังคมชุนชน
การดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ข้อที่ 4 สร้างโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต
เนื่องจากการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ปตท. จึงสนับสนุนให้เยาวชนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และส่งเสริมศักยภาพในการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดทุกช่วงวัย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างโอกาสทางการศึกษา การส่งเสริมทักษะและความคิดสร้างสรรค์ โดย ปตท. ได้ดำเนินงานพัฒนาการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายต่าง ๆ ผ่านโครงการที่สำคัญ ดังนี้
การยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่เยาวชน
สถาบันวิทยสิริเมธีและโรงเรียนกำเนิดวิทย์
กลุ่ม ปตท. ส่งเสริมการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ผ่านการสนับสนุนงบประมาณแก่ สถาบันวิทยสิริเมธี เพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงสนับสนุนการสร้างสายอาชีพนักวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์แบบในประเทศ และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้บริการด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงปลูกฝังความรักความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
สถาบันวิทยสิริเมธี
ปี 2562 มีนิสิต อยู่ระหว่างการศึกษาปริญญาโท 10 คน และปริญญาเอก 39 คน โดยสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทแล้ว จำนวน 2 รุ่น รวม 19 คน และปริญญาเอก 1 รุ่น รวม 2 คน สถาบันวิทยสิริเมธียังมุ่งมั่นสร้างสรรค์งานวิจัยที่จะพัฒนาไปสู่นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ ดังนี้
- Advanced Functional Materials: การพัฒนางานวิจัยด้านวัสดุหน้าที่พิเศษขั้นสูง เช่น การพัฒนาพื้นผิวของวัสดุ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกิดปฏิกิริยา ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนในการผลิตในอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาแคปซูลและส่วนผสมในยาหรือสารตั้งต้นทางเคมีเพื่อการออกฤทธิ์หรือเกิดปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
- Energy Science and Applied Technology: การพัฒนางานวิจัยวิทยาศาสตร์พลังงานและเทคโนโลยีในการประยุกต์ใช้ เช่น การพัฒนาวัสดุคอมโพสิต (วัสดุผสม) เพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อเพิ่มคุณภาพของ Bio-Oil การพัฒนาซีโอไลท์ (Zeoilite) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญในกระบวนการกลั่นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี การออกแบบและพัฒนาสารตัวนำไอออน และการพัฒนารูปแบบการเกิดปฏิกิริยาในระดับโมเลกุลให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
- Biological Inspired Engineering and Sustainable Technology: การพัฒนางานวิจัยเพื่อสร้างความยั่งยืนในการนำวัสดุจากธรรมชาติ ไปประยุกต์ใช้ เช่น การออกแบบชุดดักจับกลิ่น (Scrubber) ในระบบกำจัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกรโดยใช้วัสดุที่หาได้ในพื้นที่และราคาถูก เช่น กาบมะพร้าวและมุ้งไนลอน การพัฒนาตัวดูดซับจากขยะกระดาษ การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาเฉพาะเพื่อใช้ในการผลิต Biodegradable polymers ให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาที่เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารเคมี เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า รวมทั้งมีส่วนช่วยลดปัญหาโลกร้อน เป็นต้น
- Data Science and Engineering: การพัฒนางานวิจัยด้านการจัดการข้อมูลดิจิตอลและการใช้ประโยชน์ โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) และนำมาประยุกต์ใช้กับงานด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬา สถาปัตยกรรมศาสตร์ การออกแบบเมือง สาธารณสุข การจัดการข้อมูล การศึกษา และอุตสาหกรรม
โรงเรียนกำเนิดวิทย์
กลุ่ม ปตท. เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน เพื่อเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรมชั้นนำของประเทศในอนาคต จึงจัดตั้งโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพดีเลิศ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถศึกษาต่อทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลกจนถึงระดับปริญญาเอกและหลังปริญญาเอกได้ ตลอดจนให้ความร่วมมือทางวิชาการ และให้บริการในเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ชุมชน โรงเรียน และบุคคลทั่วไป
ในปัจจุบัน มีนักเรียนศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอยู่ระหว่างศึกษา จำนวน 213 คน และ มีนักเรียนของโรงเรียนกําเนิดวิทย์สำเร็จการศึกษาในชั้นแล้ว 2 รุ่น รวม 141 คน โดยมีนักเรียน ได้รับทุนศึกษาต่อต่างประเทศในสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี รวม 32 ทุน
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kvis.ac.th
การต่อยอดพัฒนาการศึกษาโรงเรียนเครือข่าย กลุ่ม ปตท.
กลุ่ม ปตท. ต่อยอดการดำเนินงานด้านการพัฒนาการศึกษา โดยออกแบบโมเดลการศึกษา STEM+E (Science Technology Engineering Mathematics and Ethics) ให้มีการบูรณาการเป็นแนวทางเดียวกัน มีเป้าหมายในการพัฒนาเยาวชน สร้างทักษะและความพร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมตามความเชี่ยวชาญของ กลุ่ม ปตท. ในด้านวิทยาศาสตร์ ความรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการ ด้านพลังงาน และคุณธรรมจริยธรรม มาต่อยอดในโรงเรียนเครือข่ายของกลุ่ม ปตท. จำนวน 96 แห่ง และยังคงให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐ ผ่านโครงการโรงเรียนประชารัฐ ซึ่งในปี 2562 ดำเนินโครงการฯ กับโรงเรียนเครือข่าย จำนวน 82 โรงเรียน ในระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เน้นการพัฒนาทักษะความรู้และทักษะการสอนแก่ครูในหลักสูตรวิชาการ ความเป็นผู้นำ และจริยธรรม โดยหลักสูตรจะแบ่งตามความพร้อมของแต่ละโรงเรียนที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลและจัดกลุ่มโรงเรียนเพื่อให้การอบรมอย่างเหมาะสมต่อการนำไปประยุกต์ใช้ของแต่ละโรงเรียน
การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา
ปตท. ดำเนินโครงการจุดประกายฝัน สานพลังกีฬาไทย ผ่านความร่วมมือกับสมาคมและสโมสรกีฬาต่าง ๆ ภายในประเทศ รวมกว่า 13 แห่ง เพื่อส่งเสริมให้เยาวชน และผู้ขาดโอกาสในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ได้มีโอกาสฝึกฝนและพัฒนาทักษะด้านกีฬา รวมถึงมีเวทีการแข่งขันที่มีมาตรฐาน รวมมากกว่า 40 รายการตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทยสู่การแข่งขันระดับประเทศ และต่อยอดสู่มืออาชีพระดับนานาชาติ ภายใต้กลยุทธ์ 3T โดยมีการดำเนินการที่สำคัญ ประกอบด้วย
(T1): Training ร่วมกับสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จัดโครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิต ฝึกสอนการว่ายน้ำให้กับเยาวชน กว่า 3,360 คน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อจมน้ำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสียชีวิตเยาวชน และร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำผู้ฝึกสอนฟุตบอลระดับโลก จากประเทศสเปน (EKKONO) จัดกิจกรรมฟุตบอลคลินิก “AFC Grassroots by PTT” ให้แก่เยาวชน ได้เข้าร่วมฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลกว่า 900 คน
(T2): Tournament จัดเวทีการแข่งขัน อาทิ พีทีที เทนนิส แชมป์เปี้ยนชิพส์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 950 คนต่อปีจากทั่วประเทศ การจัดการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ ไฟว์ 2019 ศึกฟุตซอล 4 เส้า ระหว่างทีมชาติไทย โอมาน กัวเตมาลา และเวียดนาม ซึ่งผลการแข่งขันทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
(T3): Thai Cheer ปตท. จัดโครงการพาไทยเชียร์ศึกซีเกมส์ 2019 พากองเชียร์ที่เข้าร่วมโครงการ 40 คน ร่วมเชียร์ทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ณ กรุงมานิลา ประเทศฟิลิปปินส์ รวมจำนวน 6 แมตซ์การแข่งขัน ประกอบด้วยกีฬาบาสเก็ตบอล มวยสากล ฟุตบอล วอลเลย์บอล และยิมนาสติกลีลา ซึ่งช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยในฐานะตัวแทนของประเทศลงแข่งขันชิงชัยในระดับสากล
นอกจากนี้ ปตท. ยังมุ่งส่งเสริมเยาวชนผู้ขาดโอกาสและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความเท่าเทียมในสังคมและสามารถก้าวต่อไปสู่ฝันที่ตั้งใจ โดยสนับสนุนผ่านโครงการของสมาคมและสโมสรที่สำคัญ ได้แก่ สโมสรกีฬาบีบีจี สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาวีลแชร์บาสเก็ตบอลไทย อีกด้วย
การดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อ ที่ 7 และ 8 สร้างการเข้าถึงพลังงานสะอาด และพัฒนาทักษะอาชีพ และโอกาสในการสร้างรายได้แก่สังคมชุนชน
ปตท. มุ่งเน้นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชนตามวิถีพอเพียง ทั้งการสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพ การพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำรูปแบบการดำเนินงานแบบธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise มาใช้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถสร้างการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
การพัฒนาพลังงานชุมชนอย่างมีส่วนร่วม
ปตท. ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในชุมชน ใน 3 รูปแบบ ผ่านการดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีความก้าวหน้า ดังนี้
- ระบบก๊าซชีวภาพจากฟาร์มสุกร
ขยายผลเพิ่ม 1 พื้นที่ ในตำบลป่ายุบใน จังหวัดระยอง และยกระดับการรับรองคาร์บอนเครดิตผ่านโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ในพื้นที่โครงการเดิมที่ตำบลคำแคน จังหวัดขอนแก่น สรุปจำนวนพื้นที่โครงการทั้งหมด 4 พื้นที่ ผู้ได้รับประโยชน์รวม 794 ครัวเรือน สร้างรายได้จากการขายปุ๋ยอินทรีย์ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตก๊าซชีวภาพ การขายคาร์บอนเครดิต และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานรวม 7.17 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 10,518 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อไป

- ระบบเซลล์แสงอาทิตย์ ปตท.
ส่งเสริมการใช้เซลล์แสงอาทิตย์ ผ่านการดำเนินงานใน 3 แนวทาง คือ การถ่ายทอดความรู้และลงทุนให้แก่ชุมชน การถ่ายทอดความรู้และลงทุนร่วมกับชุมชน และการถ่ายทอดเฉพาะความรู้โดยชุมชนเป็นผู้ลงทุน ในปี 2562 ได้ต่อยอดการสนับสนุนการรับรองคาร์บอนเครดิตในโปรแกรม T-VER เพิ่มเติมจำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ตำบลแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ สรุปจำนวนพื้นที่โครงการทั้งหมด 17 พื้นที่ ผู้ได้รับประโยชน์รวม 500 ครัวเรือน ผลิตไฟฟ้าได้ 349,792 หน่วยต่อปี ลดค่าใช้จ่ายรวม 1,399,168 บาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 199 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี นอกจากนี้ ปตท. ยังสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนผ่านมูลนิธิพลังที่ยั่งยืน โดยร่วมกับ GPSC ในการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดสูงสุด 17 กิโลวัตต์ พร้อมทั้งจัดอบรมให้ความรู้ด้านพลังงานทดแทน และระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการดูแลรักษาระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้แก่เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย ในพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเตรียมความพร้อมทักษะทางอาชีพแก่ผู้ต้องขังอีกด้วย
- ระบบส่งน้ำโดยเครื่องตะบันน้ำ
ขยายผลเพิ่มจำนวน 8 พื้นที่ สรุปจำนวนพื้นที่โครงการทั้งหมด 30 พื้นที่ รวมความสามารถในการส่งน้ำดิบ คิดเป็น 678 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือคิดเป็น 247,356 ลูกบาศก์เมตรต่อปี คิดเป็นค่าน้ำประปาที่ประหยัดได้ 2,523,033 บาทต่อปี
การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
กลุ่ม ปตท. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ผ่าน บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด มีการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
- โครงการร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนเพื่อการสร้างโอกาส (Café Amazon for Chance)
ขยายผลการจ้างผู้พิการทางการได้ยินเป็นพนักงานและบาริสต้าประจำร้าน เพิ่มจำนวน 2 สาขา รวมเป็น 5 สาขา โดยล่าสุดเปิดสาขาที่ ปตท. สำนักงานใหญ่ เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ฝึกอบรมการเป็นบาริสต้าให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินทั้งก่อนเริ่มงานและขณะปฏิบัติงานจริง และสนับสนุนโอกาสแก่ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้และผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกด้วย สามารถสร้างงานให้แก่ผู้พิการจำนวน 18 ตำแหน่ง (ผู้พิการทางการได้ยิน 16 ราย และผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ 2 ราย) มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 บาทต่อคนต่อเดือน หรือคิดเป็น 1,512,000 บาทต่อปี ประเมินผลลัพธ์การลงทุนทางด้านสังคม หรือ Social Return on Investment (SROI) ได้ร้อยละ 10 - โครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน (Community Coffee Sourcing)
นอกจากการรับซื้อเมล็ดกาแฟแล้ว โครงการยังส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิการ่วมกับไม้ร่มเงา การจัดการน้ำเสีย และการพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการปลูกและแปรรูปเมล็ดกาแฟ มีเกษตรกรในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ เกษตรกรบ้านปางขอน เกษตรกรบ้านผาลั้ง อำเภอเมือง และเกษตรกรบ้าน บ้านห้วยหมาก บ้านห้วยหยวกป่าโซ บ้านสามสูง และบ้านอาโต่ อำเภอแม่สลองใน เข้าร่วมจนถึงปัจจุบันรวม 160 ครัวเรือน โดยในปี 2562 รับซื้อเมล็ดกาแฟกะลาจำนวน 134 ตัน สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 15,000-30,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี หรือคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,699,275 บาทต่อปี เพิ่มไม้ร่มเงา 6,500 ต้น ประเมิน SROI ได้ร้อยละ 13.8 นอกจากนี้ ได้ขยายพื้นที่ดำเนินงานไปส่งเสริมการปลูกกาแฟโรบัสต้าให้แก่เกษตรกรบ้านโป่งลึก เกษตรกรบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี รวมถึงร่วมมือกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ในโครงการวิจัยและพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟในพื้นที่สวนป่าเศรษฐกิจในรูปแบบการจัดการทางธุรกิจและสังคมชุมชนภายใต้กรอบหลักการวิสาหกิจเพื่อสังคม
- โครงการ PTT Group Lounge
มีเป้าหมายในการลดภาระการพึ่งพิงวัยแรงงานในการดูแลผู้สูงอายุ และลดภาระรัฐด้านสวัสดิการ ผ่านการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการที่สนามปั่นจักรยาน เจริญสุข มงคลจิต สนามบินสุวรรณภูมิ มีการจ้างงานผู้สูงอายุจำนวน 5 ราย สร้างรายได้ 13,000 บาทต่อคนต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 780,000 บาทต่อปี ประเมิน SROI ได้ร้อยละ 15
- โครงการ PTT Day Care
เปิดบริการศูนย์รับเลี้ยงเด็กแก่พนักงานกลุ่ม ปตท. พร้อมสร้างอาชีพให้แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากกลุ่มสมาคมแม่บ้านการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 ปัจจุบันรับดูแลเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ จนถึง 4 ขวบ รวม 26 คน และคาดว่าภายในปี 2563 จะสามารถรับได้เต็มจำนวน 40 คน โดยมีพี่เลี้ยงรวม 11 คน ในจำนวนนี้มีการคัดเลือกแม่บ้านจากสมาคมฯ เพื่อไปฝึกงานแล้วจำนวน 3 คน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 11,000 บาทต่อคนต่อเดือน หรือคิดเป็น 253,000 บาทต่อปี ประเมิน SROI ได้ร้อยละ 27

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท สานพลังวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
กลุ่ม ปตท. ติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติตลอดทั้งปี เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและฟื้นฟูให้ประชาชนรอบพื้นที่ธุรกิจของกลุ่ม ปตท. และสนับสนุนการช่วยเหลือของภาครัฐแก่ประชาชน ให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตและสามารถกลับมาดำเนินชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว ในปีที่ผ่านมาได้ให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก น้ำท่วมในภาคอีสานและจังหวัดอุบลราชธานี ภัยแล้ง และภัยหนาว ผ่านการสนับสนุนถุงยังชีพ ผ้าห่ม น้ำมันเชื้อเพลิง ทีมกู้ชีพกู้ภัย (PTT Group Seals) การซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และเงินบริจาคผ่านทางภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ รวมผู้ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 32,000 ครัวเรือน
-
การกำกับดูแลความยั่งยืน
- กลยุทธ์ นโยบาย และการบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน
- การกำกับดูแลและธรรมาภิบาล
- การปฏิบัติที่เป็นธรรม
- ระบบการบริหารจัดการด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
- การบริหารความเสี่ยงเเละภาวะวิกฤต
- การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- เครือข่ายด้านความยั่งยืน
- การเปิดเผยข้อมูลและการประเมินผลด้านความยั่งยืน
- มิติด้านเศรษฐกิจ
- มิติด้านสิ่งแวดล้อม
- มิติด้านสังคม