ความยั่งยืน

การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการของเสีย

ความยั่งยืน

การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการของเสีย

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
      


 


ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ

ในการประกอบกิจกรรมการดำเนินงานของ ปตท. ในทุกพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งอาคารสำนักงาน ตลอดจนพื้นที่ปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดขยะหรือของเสียประเภทต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน หรือสังคมได้ ไม่มากก็น้อย  ปตท. จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเพื่อควบคุม ป้องกันและลดของเสียที่แหล่งกำเนิด ทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตรายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด โดยยึดหลัก 5RS ซึ่งประกอบไปด้วย REDUCE (ลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็น) REUSE (การใช้ซ้ำ) RECYCLE (การแปรรูปมาใช้ใหม่) RENEWABLE (การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน) และ REFUSE (การปฏิเสธการใช้สารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) อีกทั้งประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (CIRCULAR ECONOMY) ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) มาต่อยอดการจัดการของเสียอย่างครบวงจร สอดคล้องตามนโยบายของประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดและกำจัดของเสียของบริษัท ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในระยะยาว

ปตท. ตระหนักดีว่า การบริหารจัดการของเสียอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทุกภาคส่วนในประเทศต้องดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นระบบและจริงจัง ปตท. จึงพร้อมเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาและยกระดับอย่างต่อเนื่องต่อไป

วัตถุประสงค์/ เป้าหมาย

ปตท. กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ควบคุมปริมาณของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์* ซึ่งกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมกันดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 จนบรรลุเป้าหมายแล้วในปี 2563 จากนั้นได้ขยายผลการตั้งเป้าหมายไปยังปริมาณของเสียไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบต้องเป็นศูนย์ภายในปี 2566 

นอกจากนี้ ยังกำหนดเป้าหมายระยะยาว ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับและสนับสนุนการดำเนินงานตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการประยุกต์ใช้มาตรฐาน BS 8001:2017 มาประยุกต์ใช้ในกลุ่ม ปตท. เพื่อบริหารจัดการของเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ดังนี้ 

  • ระดับการประยุกต์ใช้หรือ Maturity Level เท่ากับ 3 ภายในปี 2573
  • ปริมาณของเสีย** ที่ถูกจัดการแบบหมุนเวียนของกลุ่ม ปตท. ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573
  • กำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

หมายเหตุ:

*ไม่รวมของเสียอุตสาหกรรมจากการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้
1. กรณีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือ หน่วยงานราชการไม่อนุญาตให้ส่งของเสียอุตสาหกรรมกำจัดด้วยวิธีอื่น
2. กรณีไม่สามารถนำของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ประโยชน์ได้เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีในประเทศรองรับ
ทั้งนี้สอดคล้องกับเกณฑ์รางวัลการใช้ประโยชน์ของเสียได้ทั้งหมด (Zero Waste to Landfill Achievement Award) โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม
** ไม่รวมของเสียที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามปกติ (Non-routine waste)

แนวทางการบริหารจัดการ

ปตท. บริหารจัดการของเสีย ภายใต้ การบริหารจัดการด้าน SSHE โดยกำหนดนโยบาย เป้าหมายระยะยาวและประจำปี  ตลอดจนติดตามตรวจวัดและกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐาน แนวปฏิบัติ นโยบาย เป้าหมายและขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งมีการทบทวนประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามโครงสร้างกำกับดูแลด้าน SSHE ที่กำหนดเป็นรายไตรมาส  รวมทั้งจัดทำรายงานต่อหน่วยงานราชการ และเปิดเผยข้อมูลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง

ปตท. มุ่งเน้นบริหารจัดการของเสียทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตราย โดยยึดหลัก 5RS ซึ่งประกอบไปด้วย REDUCE (ลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็น) REUSE (การใช้ซ้ำ) RECYCLE (การแปรรูปมาใช้ใหม่) RENEWABLE (การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน) และ REFUSE (การปฏิเสธการใช้สารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) เพื่อควบคุม ป้องกันและลดของเสียที่แหล่งกำเนิดให้มากที่สุด อีกทั้งประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (CIRCULAR ECONOMY) ตามมาตรฐาน BS8001:2017 มาบูรณาการเข้าไปในขั้นตอนการดำเนินงานตั้งแต่ การพัฒนาธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ การออกแบบกระบวนการผลิต การก่อสร้าง การปฏิบัติการ การขนส่ง การนำไปใช้และเลิกใช้งาน การกำจัดซาก อย่างครบวงจร โดยเน้นให้มีการนำกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และเกิดของเสียน้อยที่สุด 


โครงการ/ Initiatives ที่สำคัญ

การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตามมาตรฐาน BS8001:2017

ในการยกระดับการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนในองค์กรให้มี Maturity Level อ้างอิงตาม British Standards Institution: Framework for implementing the principles of the circular economy in organizations – Guide (BS 8001 : 2017) ในระดับที่ 3 ภายในปี 2573

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังได้ศึกษาและวิเคราะห์แนวทางและโอกาสในการดำเนินงานเพื่อยกระดับการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนร่วมกันตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยในแต่ละปี จะคัดเลือกแนวทางมาศึกษาและทดลองปฏิบัติร่วมกัน ภายใต้ “โครงการนำร่องด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ปตท. (Turning potential project to Business Model)” สำหรับในปี 2566 ปตท. ได้ ศึกษา พัฒนานวัตกรรม และดำเนินโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 2 โครงการ  ได้แก่

  1. Calcium silicate Insulation waste upcycling การศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ชุดโต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการติดตั้งใช้งานจริง ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ และโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง
  2. โครงการความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมต่อยอดวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิต สร้างผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Returnable Equipment) ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าโครงการนำร่องรีไซเคิลพลาสติกผ่านผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่างลังน้ำและโซดาขวดเปลี่ยน ผลิตจาก rPET และ rHDPE พาเลท (Pallet) ผลิตจาก rHDPE และกากมอลต์ ร่วมกับ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

การศึกษาฐานข้อมูลของเสียของกลุ่ม ปตท. เพื่อให้สนับสนุนเป้าหมายของเสียเป็นศูนย์

ปตท. ได้นำข้อมูลการจัดการของเสียอันตรายและไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมของบริษัทในกลุ่ม ปตท. มาวิเคราะห์แนวโน้มและจัดทำฐานข้อมูลวิธีการจัดการของเสีย เพื่อประเมินแนวทางการปรับปรุงวิธีส่งกำจัด รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจจากการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย โดยจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนความรู้กันภายในกลุ่ม ปตท.  เช่น การสกัดโลหะมีค่าด้วยสารเร่งปฏิกริยา เพื่อผลิตเป็นผงสีเซรามิก ก่อให้เกิดมูลค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น ซึ่งการแบ่งปันความรู้ดังกล่าว สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางให้แก่กลุ่ม ปตท. เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ภายในบริษัทของตนเองต่อไป ทั้งนี้ สำหรับของเสียที่จำเป็นต้องส่งกำจัดนั้น ปตท. ได้ดำเนินการส่งกำจัดของเสียตามมาตรฐานและกฎหมายที่กำหนด

การจัดการของเสียไม่อันตราย 

ปตท. ให้ความสำคัญกับกระบวนการคัดแยกของเสียในทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยมีการเตรียมถังขยะรองรับการแยกของเสียแต่ละประเภท ได้แก่ ถังขยะอินทรีย์ ถังขยะทั่วไป ถังรีไซเคิล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการสื่อความและแบ่งปันความรู้ เพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้แก่พนักงานในการลดของเสีย รวมไปถึงการคัดแยกผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์และสิ่งพิมพ์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมรณรงค์ ในทุกพื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศ  โดยในปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับการคัดแยกหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อ เพื่อใช้สำหรับป้องกันโรคโควิด 19 จากพนักงานในสถานประกอบการ นอกจากนี้ ปตท. ยังเข้าร่วมโครงการวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network: TRBN) โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้องค์กรภาคเอกชนที่มีสำนักงานตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ร่วมมือกันในการบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มอัตราการนำกลับมาใช้ใหม่ และลดปริมาณของเสียที่จะนำไปสู่หลุมฝังกลบ

การจัดการของเสียที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท.  

กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด โดย ปตท. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  ได้ร่วมกันลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการนำขยะพลาสติกจากร้านคาเฟ่ อเมซอน ไปใช้ประโยชน์ในโครงการนำร่อง” ผ่านการคิดค้น วิจัย พัฒนา และจัดทำเครื่องต้นแบบรับแก้วพลาสติกคาเฟ่ อเมซอน (แก้วแลกยิ้ม) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR CODE สำหรับคัดแยกแก้วพลาสติกของร้านคาเฟ่ อเมซอน เพื่อรวบรวมและนำกลับไปใช้ประโยชน์ ผลิตเป็นแก้ว Tumbler Upcycling โดยได้ติดตั้งเครื่องต้นแบบแก้วแลกยิ้มที่อาคารสำนักงานในศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ โดยในปี 2565  สามารถรวบรวมแก้ว PET พลาสติกได้กว่า 544 ใบ หากนำไปผลิตเป็นแก้ว Tumbler Upcycling จะสามารถผลิตได้กว่า 90 ใบ สามารถลดปริมาณขยะพลาสติก โดยนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้กว่า 8.7 กิโลกรัม คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 8.97 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

การศึกษาศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Upcycling: Upcycling Circular Economy Product from Insulation waste

คณะทำงาน Environmental Taskforce (E-TF) กลุ่ม ปตท. ร่วมกันศึกษาแนวทางการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการลดปริมาณของเสีย รวมทั้งหาโอกาสทางธุรกิจจากการจัดการและการรีไซเคิล โดยในปี 2566 ได้ศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium Silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ได้แก่ ชุดโต๊ะเก้าอี้ และกระถางต้นไม้ Upcycling ซึ่งในปี 2566 มีการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาติดตั้งใช้งานบริเวณพื้นที่ ปตท. สำนักงาน



การกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

กลุ่ม ปตท. ได้ประเมินนัยสำคัญของกิจกรรม รวมถึงรายงานข้อมูลความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) ประกอบด้วย การขนส่งและกระจายวัตถุดิบขั้นต้น การขนส่งและกระจายวัตถุดิบขั้นปลาย การกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตและการเดินทางเพื่อธุรกิจ  ซึ่งกลุ่ม ปตท. ถือเป็นความท้าทายและเล็งเห็นโอกาศในการผลักดันให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด  อีกทั้ง ได้เริ่มกำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

พันธมิตรและความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ 

กลุ่ม ปตท. ร่วมกับเครือโรงพยาบาลสินแพทย์ในการร่วมเปิดโครงการ “เรารักโลก โลกรักคุณ” ในการตั้งจุดเก็บซองยาพลาสติกใช้แล้วจากโรงพยาบาลในเครือสินแพทย์จำนวน 4 จุด เพื่อนำซองยาพลาสติกกลับมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ทดแทนการส่งกำจัด

ตัวชี้วัด ผลการดำเนินงานGRI 306-3 (2020), GRI 306-4 (2020), GRI306-5 (2020)

ปริมาณของเสียจากการดำเนินงานของ ปตท.

ปริมาณของเสียอันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียอันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

 

ปริมาณของเสียไม่อันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียไม่อันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

 

ปริมาณของเสียจากการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท.

ปริมาณของเสียอันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียอันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

 

ปริมาณของเสียไม่อันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียไม่อันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

การทบทวนปรับปรุงที่สำคัญในรอบปีที่ผ่านมา

ปตท. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงวิธีการจัดการของเสีย โดยควบคู่ไปกับการดูแลสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น เพื่อควบคุมปริมาณของเสียอันตรายและไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นค้นคว้าวิจัย แสวงหาและต่อยอดโครงการนำร่องการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้เป็นผลิตภัณฑ์หรือโมเดลธุรกิจใหม่ในเชิงพาณิชย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของกลุ่ม ปตท. เพื่อช่วยลดปริมาณของเสียส่งกำจัดและมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว เป็นการสร้างคุณค่าร่วมให้กับสังคม ชุมชน และประเทศชาติอย่างยั่งยืน

ในปี 2566 มีการขยายผลการดำเนินงานจากการศึกษาหาโอกาสจากการนำของเสียมาสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยได้ศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ชุดโต๊ะ เก้าอี้ และกระถางต้นไม้ โดยมีการนำมาติดตั้งใช้งานจริงในพื้นที่ ปตท. สำนักงานใหญ่

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ร่วมกันกำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 ข้อมูลที่เปิดเผยในหน้านี้ได้รับการทวนสอบโดยหน่วยงานอิสระภายนอก