ความยั่งยืน

การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการของเสีย

ความยั่งยืน

การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการของเสีย

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
      


 


ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ

ในการประกอบกิจกรรมการดำเนินงานของ ปตท. ในทุกพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งอาคารสำนักงาน ตลอดจนพื้นที่ปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดขยะหรือของเสียประเภทต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน หรือสังคมได้ ไม่มากก็น้อย  ปตท. จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเพื่อควบคุม ป้องกันและลดของเสียที่แหล่งกำเนิด ทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตรายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด โดยยึดหลัก 5RS ซึ่งประกอบไปด้วย REDUCE (ลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็น) REUSE (การใช้ซ้ำ) RECYCLE (การแปรรูปมาใช้ใหม่) RENEWABLE (การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน) และ REFUSE (การปฏิเสธการใช้สารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) อีกทั้งประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (CIRCULAR ECONOMY) ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) มาต่อยอดการจัดการของเสียอย่างครบวงจร สอดคล้องตามนโยบายของประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดและกำจัดของเสียของบริษัท ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในระยะยาว

ปตท. ตระหนักดีว่า การบริหารจัดการของเสียอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทุกภาคส่วนในประเทศต้องดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นระบบและจริงจัง ปตท. จึงพร้อมเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาและยกระดับอย่างต่อเนื่องต่อไป

วัตถุประสงค์/ เป้าหมาย

ปตท. กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ควบคุมปริมาณของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์* ซึ่งกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมกันดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 จนบรรลุเป้าหมายแล้วในปี 2563 จากนั้นได้ขยายผลการตั้งเป้าหมายไปยังปริมาณของเสียไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบต้องเป็นศูนย์ภายในปี 2566 

นอกจากนี้ ยังกำหนดเป้าหมายระยะยาว ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับและสนับสนุนการดำเนินงานตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการประยุกต์ใช้มาตรฐาน BS 8001:2017 มาประยุกต์ใช้ในกลุ่ม ปตท. เพื่อบริหารจัดการของเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ดังนี้ 

  • ระดับการประยุกต์ใช้หรือ Maturity Level เท่ากับ 3 ภายในปี 2573
  • ปริมาณของเสีย** ที่ถูกจัดการแบบหมุนเวียนของกลุ่ม ปตท. ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573
  • กำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

หมายเหตุ:

*ไม่รวมของเสียอุตสาหกรรมจากการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้
1. กรณีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือ หน่วยงานราชการไม่อนุญาตให้ส่งของเสียอุตสาหกรรมกำจัดด้วยวิธีอื่น
2. กรณีไม่สามารถนำของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ประโยชน์ได้เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีในประเทศรองรับ
ทั้งนี้สอดคล้องกับเกณฑ์รางวัลการใช้ประโยชน์ของเสียได้ทั้งหมด (Zero Waste to Landfill Achievement Award) โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม
** ไม่รวมของเสียที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามปกติ (Non-routine waste)

แนวทางการบริหารจัดการ

ปตท. บริหารจัดการของเสีย ภายใต้ การบริหารจัดการด้าน SSHE โดยกำหนดนโยบาย เป้าหมายระยะยาวและประจำปี  ตลอดจนติดตามตรวจวัดและกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐาน แนวปฏิบัติ นโยบาย เป้าหมายและขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งมีการทบทวนประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามโครงสร้างกำกับดูแลด้าน SSHE ที่กำหนดเป็นรายไตรมาส  รวมทั้งจัดทำรายงานต่อหน่วยงานราชการ และเปิดเผยข้อมูลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง

ปตท. มุ่งเน้นบริหารจัดการของเสียทั้งที่เป็นของเสียอันตรายและไม่อันตราย โดยยึดหลัก 5RS ซึ่งประกอบไปด้วย REDUCE (ลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็น) REUSE (การใช้ซ้ำ) RECYCLE (การแปรรูปมาใช้ใหม่) RENEWABLE (การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน) และ REFUSE (การปฏิเสธการใช้สารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) เพื่อควบคุม ป้องกันและลดของเสียที่แหล่งกำเนิดให้มากที่สุด อีกทั้งประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (CIRCULAR ECONOMY) ตามมาตรฐาน BS8001:2017 มาบูรณาการเข้าไปในขั้นตอนการดำเนินงานตั้งแต่ การพัฒนาธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ การออกแบบกระบวนการผลิต การก่อสร้าง การปฏิบัติการ การขนส่ง การนำไปใช้และเลิกใช้งาน การกำจัดซาก อย่างครบวงจร โดยเน้นให้มีการนำกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และเกิดของเสียน้อยที่สุด 


โครงการ/ Initiatives ที่สำคัญ

การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตามมาตรฐาน BS8001:2017

ในการยกระดับการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนในองค์กรให้มี Maturity Level อ้างอิงตาม British Standards Institution: Framework for implementing the principles of the circular economy in organizations – Guide (BS 8001 : 2017) ในระดับที่ 3 ภายในปี 2573

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังได้ศึกษาและวิเคราะห์แนวทางและโอกาสในการดำเนินงานเพื่อยกระดับการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนร่วมกันตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยในแต่ละปี จะคัดเลือกแนวทางมาศึกษาและทดลองปฏิบัติร่วมกัน ภายใต้ “โครงการนำร่องด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ปตท. (Turning potential project to Business Model)” สำหรับในปี 2566 ปตท. ได้ ศึกษา พัฒนานวัตกรรม และดำเนินโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 2 โครงการ  ได้แก่

  1. Calcium silicate Insulation waste upcycling การศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ชุดโต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการติดตั้งใช้งานจริง ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ และโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง
  2. โครงการความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมต่อยอดวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิต สร้างผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Returnable Equipment) ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าโครงการนำร่องรีไซเคิลพลาสติกผ่านผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่างลังน้ำและโซดาขวดเปลี่ยน ผลิตจาก rPET และ rHDPE พาเลท (Pallet) ผลิตจาก rHDPE และกากมอลต์ ร่วมกับ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

การศึกษาฐานข้อมูลของเสียของกลุ่ม ปตท. เพื่อให้สนับสนุนเป้าหมายของเสียเป็นศูนย์

ปตท. ได้นำข้อมูลการจัดการของเสียอันตรายและไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมของบริษัทในกลุ่ม ปตท. มาวิเคราะห์แนวโน้มและจัดทำฐานข้อมูลวิธีการจัดการของเสีย เพื่อประเมินแนวทางการปรับปรุงวิธีส่งกำจัด รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจจากการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย โดยจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนความรู้กันภายในกลุ่ม ปตท.  เช่น การสกัดโลหะมีค่าด้วยสารเร่งปฏิกริยา เพื่อผลิตเป็นผงสีเซรามิก ก่อให้เกิดมูลค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น ซึ่งการแบ่งปันความรู้ดังกล่าว สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางให้แก่กลุ่ม ปตท. เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ภายในบริษัทของตนเองต่อไป ทั้งนี้ สำหรับของเสียที่จำเป็นต้องส่งกำจัดนั้น ปตท. ได้ดำเนินการส่งกำจัดของเสียตามมาตรฐานและกฎหมายที่กำหนด

การจัดการของเสียไม่อันตราย 

ปตท. ให้ความสำคัญกับกระบวนการคัดแยกของเสียในทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยมีการเตรียมถังขยะรองรับการแยกของเสียแต่ละประเภท ได้แก่ ถังขยะอินทรีย์ ถังขยะทั่วไป ถังรีไซเคิล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการสื่อความและแบ่งปันความรู้ เพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้แก่พนักงานในการลดของเสีย รวมไปถึงการคัดแยกผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์และสิ่งพิมพ์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมรณรงค์ ในทุกพื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศ  โดยในปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับการคัดแยกหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อ เพื่อใช้สำหรับป้องกันโรคโควิด 19 จากพนักงานในสถานประกอบการ นอกจากนี้ ปตท. ยังเข้าร่วมโครงการวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network: TRBN) โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้องค์กรภาคเอกชนที่มีสำนักงานตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ร่วมมือกันในการบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มอัตราการนำกลับมาใช้ใหม่ และลดปริมาณของเสียที่จะนำไปสู่หลุมฝังกลบ

การจัดการของเสียที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท.  

กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด โดย ปตท. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  ได้ร่วมกันลงนามใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการนำขยะพลาสติกจากร้านคาเฟ่ อเมซอน ไปใช้ประโยชน์ในโครงการนำร่อง” ผ่านการคิดค้น วิจัย พัฒนา และจัดทำเครื่องต้นแบบรับแก้วพลาสติกคาเฟ่ อเมซอน (แก้วแลกยิ้ม) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR CODE สำหรับคัดแยกแก้วพลาสติกของร้านคาเฟ่ อเมซอน เพื่อรวบรวมและนำกลับไปใช้ประโยชน์ ผลิตเป็นแก้ว Tumbler Upcycling โดยได้ติดตั้งเครื่องต้นแบบแก้วแลกยิ้มที่อาคารสำนักงานในศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ โดยในปี 2565  สามารถรวบรวมแก้ว PET พลาสติกได้กว่า 544 ใบ หากนำไปผลิตเป็นแก้ว Tumbler Upcycling จะสามารถผลิตได้กว่า 90 ใบ สามารถลดปริมาณขยะพลาสติก โดยนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้กว่า 8.7 กิโลกรัม คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 8.97 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

การศึกษาศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Upcycling: Upcycling Circular Economy Product from Insulation waste

คณะทำงาน Environmental Taskforce (E-TF) กลุ่ม ปตท. ร่วมกันศึกษาแนวทางการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการลดปริมาณของเสีย รวมทั้งหาโอกาสทางธุรกิจจากการจัดการและการรีไซเคิล โดยในปี 2566 ได้ศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium Silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ได้แก่ ชุดโต๊ะเก้าอี้ และกระถางต้นไม้ Upcycling ซึ่งในปี 2566 มีการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาติดตั้งใช้งานบริเวณพื้นที่ ปตท. สำนักงาน



การกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

กลุ่ม ปตท. ได้ประเมินนัยสำคัญของกิจกรรม รวมถึงรายงานข้อมูลความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) ประกอบด้วย การขนส่งและกระจายวัตถุดิบขั้นต้น การขนส่งและกระจายวัตถุดิบขั้นปลาย การกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตและการเดินทางเพื่อธุรกิจ  ซึ่งกลุ่ม ปตท. ถือเป็นความท้าทายและเล็งเห็นโอกาศในการผลักดันให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด  อีกทั้ง ได้เริ่มกำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

พันธมิตรและความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ 

กลุ่ม ปตท. ร่วมกับเครือโรงพยาบาลสินแพทย์ในการร่วมเปิดโครงการ “เรารักโลก โลกรักคุณ” ในการตั้งจุดเก็บซองยาพลาสติกใช้แล้วจากโรงพยาบาลในเครือสินแพทย์จำนวน 4 จุด เพื่อนำซองยาพลาสติกกลับมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ทดแทนการส่งกำจัด

ตัวชี้วัด ผลการดำเนินงานGRI 306-3 (2020), GRI 306-4 (2020), GRI306-5 (2020)

ปริมาณของเสียจากการดำเนินงานของ ปตท.

ปริมาณของเสียอันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียอันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

 

ปริมาณของเสียไม่อันตรายส่งกำจัด (ตัน)

ปริมาณของเสียไม่อันตรายนำกลับมาใช้ใหม่ (ตัน)

 

ปริมาณของเสียจากการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท.

 ของเสียอันตรายที่นำกลับมาใช้ซ้ำ/นำกลับมาใช้ใหม่ และในรูปแบบที่ไม่ใช่การกำจัด (หน่วย: เมตตริกตัน)

Unit

2563

2564

2565

2566

การจัดการของเสียอันตรายที่นำกลับมาใช้ซ้ำ/นำกลับมาใช้ใหม่

เมตตริกตัน

8,478

4,338

11,682

10,872

การจัดการของเสียอันตรายในรูปแบบที่ไม่ใช่การกำจัด

เมตตริกตัน

86,297

31,974

56,694

34,925

การจัดการของเสียอันตรายโดยการฝั่งกลบอย่างปลอดภัย

เมตตริกตัน

0

0

0

0

การจัดการของเสียอันตรายโดยการนำพลังงานกลับคืนมา

เมตตริกตัน

37,779

16,522

20,115

16,943

การจัดการของเสียอันตรายโดยการเผา

เมตตริกตัน

18,341

6,016

21,097

17,450

การจัดการของเสียอันตรายโดยวิธี Deep well injection และการถมที่ดิน

เมตตริกตัน

30,177

9,436

15,482

532

การจัดการของเสียอันตรายโดยไม่ทราบวิธีการกำจัด

เมตตริกตัน

0

0

0

0


ของเสียที่เป็นของแข็ง ที่นำกลับมาใช้ซ้ำ/นำกลับมาใช้ใหม่ และในรูปแบบที่ไม่ใช่การกำจัด (หน่วย: เมตตริกตัน)

หน่วย
2563
2564
2565
2566

การจัดการของเสียที่นำกลับมาใช้ซ้ำ/นำกลับมาใช้ใหม่

เมตตริกตัน

35,442

44,847

27,394

24,527

การจัดการของเสียในรูปแบบที่ไม่ใช่การกำจัด

เมตตริกตัน

27,912

34,657

26,694

27,409

การฝังกลบอย่างปลอดภัย

เมตตริกตัน

123

29

0

0

การจัดการของเสียโดยการนำพลังงานกลับคืนมา

เมตตริกตัน

1,941

1,879

3,930

2,078

การจัดการของเสียโดยการเผา

เมตตริกตัน

3,242

2,321

2,180

2,100

การจัดการของเสียโดยวิธี Deep well injection และการถมที่ดิน

เมตตริกตัน

1,373

6,511

165

621

การจัดการของเสียโดยไม่ทราบวิธีการกำจัด

เมตตริกตัน

21,233

23,917

20,419

22,610

การทบทวนปรับปรุงที่สำคัญในรอบปีที่ผ่านมา

ปตท. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงวิธีการจัดการของเสีย โดยควบคู่ไปกับการดูแลสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น เพื่อควบคุมปริมาณของเสียอันตรายและไม่อันตรายจากอุตสาหกรรมที่กำจัดโดยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นค้นคว้าวิจัย แสวงหาและต่อยอดโครงการนำร่องการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้เป็นผลิตภัณฑ์หรือโมเดลธุรกิจใหม่ในเชิงพาณิชย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของกลุ่ม ปตท. เพื่อช่วยลดปริมาณของเสียส่งกำจัดและมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว เป็นการสร้างคุณค่าร่วมให้กับสังคม ชุมชน และประเทศชาติอย่างยั่งยืน

ในปี 2566 มีการขยายผลการดำเนินงานจากการศึกษาหาโอกาสจากการนำของเสียมาสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยได้ศึกษาแนวทางการนำฉนวนชนิด Calcium silicate ที่ผ่านการใช้งานแล้วมา Upcycling เป็นผลิตภัณฑ์ชุดโต๊ะ เก้าอี้ และกระถางต้นไม้ โดยมีการนำมาติดตั้งใช้งานจริงในพื้นที่ ปตท. สำนักงานใหญ่

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ร่วมกันกำหนดกรอบการดำเนินงานสำหรับกลุ่ม ปตท. ในปี 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) (GHG Avoidance) จากกิจกรรมการกำจัดของเสียจากกระบวนการผลิตไว้ที่ 0.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ตัวชี้วัด และผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ ปตท. : ด้านสิ่งแวดล้อม