ความยั่งยืน

การบริหารความเสี่ยงเเละภาวะวิกฤต

ความยั่งยืน

การบริหารความเสี่ยงเเละภาวะวิกฤต

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน





การบริหารความเสี่ยงองค์กร

นโยบายและกระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กร

ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงภายใต้การเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายในและภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของธุรกิจ จึงใช้หลักมาตรฐานสากล Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO-ERM 2017) ในการบริหารความเสี่ยงมาอย่างต่อเนื่องและถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ที่ต้องมีความเชื่อมโยงกันทุกระดับ จึงมีการบูรณาการระบบงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบองค์กร (Governance Risk and Compliance: GRC) เข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร เพื่อช่วยปกป้องหรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้จากปัจจัยเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ปตท. มีคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน (Corporate Governance and Sustainability Committee: CGSC) และคณะกรรมการจัดการการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และ
การกำกับการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบองค์กร (Governance Risk and Compliance Management Committee: GRCMC) ทำหน้าที่กำกับดูแล การปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล การจัดการความเสี่ยงระดับปฏิบัติการและการควบคุมภายใน การกำกับการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบองค์กร การบริหารจัดการความยั่งยืน การดำเนินงานด้านดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารด้าน
การส่งเสริมจริยธรรมและการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ รวมถึงมีคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management Committee: ERMC) และคณะกรรมการแผนวิสาหกิจและบริหารความเสี่ยง (Corporate Plan and Risk Management Committee: CPRC) ทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงระดับองค์กร ซึ่งจะมีการรายงานความก้าวหน้าของแผนงานด้านการกำกับดูแลด้านธรรมาภิบาล การบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน และกฎหมายกฎระเบียบ (GRC) เสนอต่อคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อทบทวนประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นรายไตรมาส

ปตท. กำหนดนโยบายบริหารความเสี่ยง ขึ้น ซึ่งพนักงานทุกคนต้องถือปฏิบัติ ลงนามโดยประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร รวมถึงได้จัดทำกระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กร เป็น “คู่มือการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรของ ปตท. (PTT Enterprise Risk Management Manual: (ERM)” เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อกำหนดให้เป็นแนวทางการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานทั่วทั้งองค์กร ประกอบไปด้วยรายละเอียดของการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรแบบบูรณาการ นิยามและคำจำกัดความ กรอบการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรของ ปตท. และกระบวนการบริหารความเสี่ยง เป็นต้น



โครงสร้างการบริหารความเสี่ยง

ปตท. บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบผ่านคณะกรรมการจัดการต่าง ๆ และบูรณาการการบริหารความเสี่ยงควบคู่ไปกับการจัดทำแผนวิสาหกิจ เพื่อให้แผนบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร ความเสี่ยงในการปฏิบัติงานถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของผู้บริหารในการจัดการและควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งมีการระบุไว้ชัดเจนในคำบรรยายหน้าที่งานของทุกหน่วยงาน ทั้งนี้ กระบวนการบริหารความเสี่ยงของ ปตท. ได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายในของ ปตท. ได้แก่ ฝ่ายระบบบริหารองค์กร และฝ่ายตรวจสอบภายในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงได้รับการสอบทานโดยคณะกรรมการตรวจสอบของ ปตท. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเป็นประจำทุกปีเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยง

เครื่องมือที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยง

ปตท. ศึกษาและนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น

  • การกำหนดระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ (Risk Appetite) เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานขององค์กร โดยมีองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน ได้แก่

    1. ด้าน Strategic Risk เกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน และ Portfolio การลงทุน
    2. ด้าน Compliance Risk เกี่ยวกับความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
    3. ด้าน Operation Risk เกี่ยวกับ Efficiency SSHE และ Cyber Security
    4. ด้าน Financial Risk เกี่ยวกับ Financial StrengthHealth และ Credit Ratingและ Credit Rating

    นอกจากนี้ ปตท. มีการกำหนดความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ระดับองค์กร ประจำปี (Key Risk Indicator: KRI) ในแต่ละแผนบริหารความเสี่ยง (Mitigation Plan) สำหรับรายการความเสี่ยงระดับองค์กร (Corporate Risk Profile) โดย PTT Risk Appetite รวมถึงแผนบริหารความเสี่ยง และ KRI จะมีการสื่อสารและถ่ายทอดต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องรวมถึงมีการติดตามเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าระดับของความเสี่ยงที่องค์กรตั้งใจจะรับไว้ไม่เกินค่าที่กำหนด
  • การประเมินและจัดลำดับปัจจัยความเสี่ยงโดยแผนที่ความเสี่ยง (Risk Map) โดยกำหนดระดับความรุนแรงทั้งโอกาสและผลกระทบให้สัมพันธ์กับขอบเขตระดับความเสี่ยงที่องค์กรสามารถรับได้ (Risk Boundary) แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ความเสี่ยงระดับต่ำ (สีเขียว) ความเสี่ยงระดับปานกลาง (สีเหลือง) ความเสี่ยงระดับสูง (สีส้ม) และความเสี่ยงระดับสูงมาก (สีแดง) ดังแสดงตามรูป


    ทั้งนี้ รายการความเสี่ยงระดับสูงและสูงมาก จะถูกกำหนดให้เป็นความเสี่ยงระดับองค์กรซึ่งจะต้องดำเนินการตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง องค์กร
  • การนำเทคนิค Monte Carlo Simulation มาใช้ในการบ่งชี้ผลกระทบต่อผลประกอบการในรูปแบบมูลค่าความเสี่ยง (Value at Risk: VaR) โดยวิเคราะห์จากปัจจัยเสี่ยงหลัก (Key Risk Factors) ที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ (กำไรสุทธิ) ของกลุ่ม ปตท.  อาทิเช่น ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ค่าการกลั่น อัตราแลกเปลี่ยน และปริมาณการผลิต รวมถึงจัดทำ Sensitivity Impact Analysis เพื่อวิเคราะห์และประเมินผลกระทบของแต่ละปัจจัยเสี่ยงหลักภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยกำหนดความถี่การดำเนินการดังกล่าวเป็นรายไตรมาส เพื่อให้ ปตท. มีความพร้อมใน
    การปรับปรุงแผนบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การบริหารความเสี่ยงระดับองค์กรและความเสี่ยงเกิดใหม่

แผนบริหารความเสี่ยง (Mitigation Plan) ภายหลังได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการ ปตท. จะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยหากเกิดสัญญาณแจ้งเตือน (Trigger Alert) หน่วยงานผู้รับผิดชอบ (Risk Owner) จะต้องเตรียมข้อมูลพร้อมแผนปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง นำเสนอคณะกรรมการแผนวิสาหกิจและบริหารความเสี่ยง (CPRC) และคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร ปตท. (ERMC) พิจารณาอนุมัติแผนและเร่งดำเนินการเพื่อให้ระดับของความเสี่ยงกลับมาอยู่ในระดับปกติ

ความเสี่ยง (Exposure)
แนวทางบริหารความเสี่ยง
ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ภายหลังการบริหารจัดการ (Risk Movement)
1. ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ AI, Robotics & Digitalization และ Logistics & Infrastructure ให้ประสบความสำเร็จเป็น
New S-Curve ของ ปตท.:

หาก ปตท. ไม่สามารถแสวงหาโอกาสและพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ได้ อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ ปตท.
  • จัดทำตัวจำลองต้นแบบ (Prototype) เพื่อทดสอบเทคโนโลยีและการตอบรับของตลาดก่อนพัฒนาไปสู่เชิงพาณิชย์ (Scale up to Commercial)
  • สรรหาและพัฒนาทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนแสวงหาการลงทุนเพิ่มเติมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ
2. ความเสี่ยงจากความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์:

หากเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ภายในระบบ Information Technology (IT) และ Operation Technology (OT) ของ ปตท. อาจส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ เช่น ถูกขโมยข้อมูล ถูกขู่กรรโชกเพื่อเรียกค่าไถ่ สูญเสียภาพลักษณ์และชื่อเสียง ไปจนถึงทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก
  • ดำเนินงานตามประมวลแนวทางปฏิบัติและกรอบมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศอย่างเคร่งครัด
  • เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยลงทุนในเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน และเพิ่มความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ให้กับบุคลากรภายในองค์กร เช่น ตรวจสอบค้นหาช่องโหว่ รวมถึงทำการทดสอบการเจาะระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อค้นหาช่องโหว่และวัดประสิทธิภาพของระบบป้องกันภายในองค์กร โดยครอบคลุมทั้ง Information Technology (IT) และ Operation Technology (OT) เป็นต้น
  • มอบหมายให้บริษัท PTT Digital Solutions เป็นผู้ให้บริการด้าน Cybersecurity ให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท. โดยมีศูนย์ Cyber Security Operation Center (CSOC) ทำหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบความผิดปกติจากการโจมตีทางด้านไซเบอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีแผนรองรับการตอบสนองการเกิดเหตุด้านไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างชัดเจน
  •  มีการประสานงานร่วมกับศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) และ Community สากลอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเหตุการณ์ทางด้าน Cybersecurity ระหว่างกัน


ปัจจัยความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ประจำปี 2566 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน

แบบ 56-1 One Report 2566

การเสริมสร้างวัฒนธรรมความเสี่ยงองค์กร

ปตท. ปลูกฝังจิตสำนึก สร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมด้านการบริหารความเสี่ยงให้แก่พนักงานทุกคน มุ่งเน้นการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริหารความเสี่ยงองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ด้าน GRC รวมถึงมีกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรม อาทิ กำหนดให้มี GRC Talk ในการประชุมคณะกรรมการจัดการของ ปตท. (PTTMC) รายเดือน และกำหนดเป็นวาระประจำในทุกการประชุมของสายงาน มีการจัดกิจกรรม GRC Camp มีการเผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูง ด้าน GRC เพื่อเป็น Tone From The Top ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานรวมถึงสำรวจความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจของบุคลากรเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงองค์กรเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ ในปี 2566 ปตท. เพิ่มกิจกรรม GRC Knowledge Awareness Workshop ตลอดจนประชาสัมพันธ์ GRC Policy และความรู้ด้าน GRC  รวมทั้งเพิ่มช่องทางให้พนักงานศึกษานโยบายการบริหารความเสี่ยง คู่มือบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร เอกสารสื่อความประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ผ่านระบบ Risk Management Dashboard (RMD)

การปรับปรุงกระบวนการบริหารความเสี่ยงจากการทบทวนโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร

ปตท. มีการปรับปรุงกระบวนการบริหารความเสี่ยงจากการทบทวนโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร ดังนั้น

  1. ปรับปรุง “ความเสี่ยงที่ยอมรับได้” (Risk Appetite Statement) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
  2. พิจารณาผลกระทบจากแผนธุรกิจต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำไปสู่การจัดทำแผนงานเพื่อลดผลกระทบตามรูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม
  3. กำกับดูแลการจัดการนวัตกรรมองค์กรให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเพิ่มประสิทธิผลด้านนวัตกรรมที่สอดคล้องตามวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์และเป้าหมายหลักของ ปตท.
  4. พิจารณาให้ข้อคิดเห็นวาระโครงการลงทุนขนาดใหญ่และสัญญาที่มีภาระผูกพันในระยะยาว มีความซับซ้อนเชิงธุรกิจ และมีความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อ ปตท. อย่างมีนัยสำคัญก่อนนำเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการ ปตท.
  5. พิจารณากลั่นกรองรายการความเสี่ยงองค์กรประจำปี ก่อนนำเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการ ปตท. พร้อมแผนวิสาหกิจประจำปี โดยให้มีการบูรณาการรายการความเสี่ยงและแผนบริหาร
    ความเสี่ยงองค์กรควบคู่ไปกับการจัดทำแผนวิสาหกิจ เพื่อให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับทิศทาง เป้าหมาย กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ มีการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติทั่วทั้งองค์กร
  6. ติดตามการบริหารความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกไตรมาส โดยกำหนดให้มีตัวชี้วัดความเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยล่วงหน้า รวมถึงการวัดประสิทธิผลของการบริหารความเสี่ยง และให้ข้อเสนอแนะแก่ฝ่ายจัดการในการทบทวนแผนบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และมีการรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการ ปตท.
  7. พิจารณาผลประเมินความเสี่ยง ระดับความรุนแรงของผลกระทบ และการจัดทำมาตรการรองรับของ ปตท. กรณีเกิดเหตุการณ์สำคัญที่มีความเสี่ยงและอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ กลุ่ม ปตท. (Risk Event) พร้อมให้ข้อคิดเห็น หรือมอบนโยบายการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม
  8. ปรับปรุงแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านราคาโดยการใช้ตราสารอนุพันธ์ของบริษัทในกลุ่ม ปตท.

การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

กระบวนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ปตท. ได้พัฒนาระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management System: BCMS) ตามมาตรฐานการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (ISO22301:2019) และมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมการป้องกัน การตอบสนอง การรองรับ และการฟื้นฟู โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงการป้องกัน/ เตรียมความพร้อม ช่วงการตอบสนอง/ การดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง และช่วงการฟื้นฟู โดยแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดการ และคณะกรรมการ ปตท. ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มี
การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งท้าทายสำหรับองค์กรในเรื่องการเกิดวิกฤตการณ์ที่ไม่คาดคิด ภัยธรรมชาติ ความไม่สงบทางการเมือง การก่อการร้าย โรคระบาด ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการที่สำคัญของ ปตท. หาก ปตท. ไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถในการดำเนินงานให้กลับสู่สภาพปกติได้จะเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือชีวิตรวมทั้งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประเทศชาติ สังคม ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองวิกฤตการณ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง จึงกำหนดนโยบายด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยให้ผู้บริหารและพนักงาน ตลอดจนผู้ปฏิบัติให้กับ ปตท. ทุกคนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการดำเนินการ สนับสนุน และปฏิบัติตาม
นโยบายฯ อย่างสม่ำเสมอ

ปตท. จัดทำแผนเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน/ ภาวะวิกฤต โดยแบ่งเป็น 4 ระดับตามความรุนแรงของเหตุการณ์ กล่าวคือ กรณีเป็นเหตุการณ์ที่ ปตท. จำเป็นต้องขอ
ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหน่วยงานภายนอกในระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค หรือระดับประเทศ จะพิจารณายกระดับเหตุฉุกเฉิน/ ภาวะวิกฤตขึ้นสู่ระดับ 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน/ ภาวะวิกฤตและบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยกำหนดผู้รับผิดชอบพร้อมมอบอำนาจในการบริหารจัดการในแต่ละระดับชั้นอย่างเหมาะสม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนชุมชมรอบข้างได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ปตท. มีการแต่งตั้งผู้ประสานงานประจำหน่วยงาน เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการส่งผ่านข้อมูลที่สำคัญ เช่น สิ่งที่พนักงานต้องปฏิบัติ หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแต่ละปี เป็นต้น รวมทั้งมีการจัดทำ Emergency & Business Continuity Management Web Portal เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารและดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน/ภาวะวิกฤต และบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ปตท. จัดฝึกซ้อมแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Attack) ส่งผลให้ระบบงานทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องมีการบริหารจัดการกรณีก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันออกและตะวันตกมีปริมาณลดลง โดยมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธาน และมีผู้บริหารตามโครงสร้างศูนย์บริหารจัดการภาวะวิกฤตและบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Crisis Management Center: CMC) เข้าร่วมการฝึกซ้อมด้วย มีการประสานไปยังศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของกลุ่มธุรกิจ รวมถึง บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผ่านระบบ
การประชุมทางไกลด้วยวีดิทัศน์ ในปี 2566 ปตท. ยังคงได้รับการรับรองมาตรฐานการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (ISO 22301) จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)