ความยั่งยืน

องค์กรที่ดีของสังคม

ความยั่งยืน

องค์กรที่ดีของสังคม

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
  





ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ

ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ มีพันธกิจในการดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมกับการเป็นองค์กรที่ดีของสังคม ผ่านการมีความรับผิดชอบต่อสังคมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ (Economic)  สิ่งแวดล้อม (Environment)  คน (People)  และสิทธิมนุษยชน (Human Right) ร่วมกับบริษัทในเครือ บริษัทเครือข่ายพันธมิตร และเครือข่ายทางสังคมทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน (Business Relationships) โดยได้จัดตั้งโครงสร้างการดำเนินงานโดยเฉพาะ ได้แก่ สายงานผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารจัดการชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม (ผสญ.) ประกอบด้วย 6 หน่วยงาน ได้แก่ ฝ่ายแผนกลยุทธ์บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม (กสญ.)  ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม (สคญ.)  ฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. (ปนญ.)  โครงการรักษ์น้ำ รักษ์ป่า รักษ์คุ้งบางกะเจ้า (คบจ.)  สถาบันลูกโลกสีเขียว (สลข.)  และฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร (สภญ.)  พร้อมทั้งกำกับดูแลบริษัทสานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (SPSE)  และมูลนิธิพลังที่ยั่งยืน (มพย.) เพื่อประกอบกิจการทางสังคมในแต่ละมิติ ควบคู่ไปกับการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรจากผลกำไรทางธุรกิจในสัดส่วนร้อยละ 2 ของผลกำไรสุทธิในแต่ละปี ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนความช่วยเหลือในรูปแบบการบริจาค (Donation) การรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบโครงการ (Corporate Social Responsibility: CSR) (เพื่อยกระดับไปสู่การสร้างคุณค่าร่วมเชิงสังคมในวิถีของการสร้าคุณค่าทางธุรกิจ (Creating Shared Value: CSV)) และการดำเนินงานในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) มีความมุ่งหวังให้เกิดผลกระทบเชิงบวกสูงสุดต่อสังคม อาทิ ชุมชนได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อสร้างอาชีพพร้อมสนับสนุนด้านการตลาด  ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการอนุรักษ์และฟื้นฟูพร้อมเผยแพร่องค์ความรู้และสร้างรายได้ให้กับชุมชน  เยาวชนได้รับการส่งเสริมการศึกษาจากการพัฒนาทักษะผู้สอนและระบบการเรียนการสอนของสถานศึกษาให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น  ผู้ด้อยโอกาสได้รับการส่งเสริมในทุกมิติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น และหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้นต่อชุมชนจากการดำเนินงานดังกล่าวทุกประการ อาทิ ผลกระทบจากการถอยออกของ ปตท. ภายหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ เพื่อให้ชุมชนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีกระบวนการที่รอบคอบเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ ปตท. ในภายหลัง หรือการดำเนินงานที่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ประกอบการของ ปตท. อาจส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของชุมชนกับ ปตท. ได้ในอนาคต เป็นต้น การดำเนินงานดังกล่าวจึงต้องครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการ ความคาดหวัง และข้อกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจ  ทั้งชุมชนรอบสถานประกอบการ ปตท.  ผู้ด้อยโอกาส  รวมถึงสังคม ชุมชน และเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรและสังคมชุมชนอย่างสมดุล ตลอดจนนำไปสู่ความยั่งยืนร่วมกันต่อไปในอนาคต

วัตถุประสงค์/ เป้าหมาย

ปี 2565 ปตท. ยังคงยึดแนวทางการดำเนินงานทางสังคมใน 2 มิติ ได้แก่ มิติด้านการพัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL) และมิติด้านการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) ควบคู่ไปกับการสร้างการมีส่วนร่วม และบริหารจัดการผลกระทบของการดำเนินธุรกิจต่อชุมชนรอบสถานประกอบการ พร้อมทั้งกำกับดูแลกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมในภาพรวมของกลุ่ม ปตท. ผ่านแนวทางในการมุ่งเน้นการระดมความสามารถและความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทในกลุ่ม ปตท. มาบูรณาการร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมแบบองค์รวม โดยในปี 2565 ปตท. จัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนทางสังคม รวมทั้งสิ้น 1,086.40 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1.66 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ตามนโยบายการจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนทางสังคม อย่างน้อยร้อยละ 1-3 % ของกำไรสุทธิ (เป้าหมายปี 2563 - 2567) โดยจัดสรรสัดส่วนงบประมาณสำหรับการลงทุนทางด้านสังคมเป็น การสนับสนุนความช่วยเหลือในรูปแบบการบริจาค (Donation) ร้อยละ 42.60 การรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบโครงการ (Corporate Social Responsibility : CSR) ร้อยละ 56.20 และการดำเนินงานในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE)  ร้อยละ 1.20 (เป้าหมายปี 2562 - 2566) กำหนดสัดส่วน Donation ไม่เกินร้อยละ 30 และ CSR รวมกับ SE ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานจากการลงทุนทางสังคมดังกล่าวในปี 2565 ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกมิติตามที่ได้กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น และจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้การดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนการดำเนินงานประจำปีที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามกลุ่ม ปตท. ไม่หยุดนิ่งที่จะต่อยอดการดำเนินงานเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2564 ที่ ปตท. ได้ดำเนินการ “โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท.” เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ระบบสาธารณสุขในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระดับมหภาคมาจนถึงระดับครัวเรือน ส่งผลกระทบให้เยาวชนจำนวนมากเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา นำมาสู่การจัดตั้งโครงการลมหายใจเพื่อน้อง ผ่านกิจกรรม PTT Virtual Run สร้างโอกาสให้เยาวชนกว่า 103,000 คน ได้กลับสู่ระบบการศึกษา พร้อมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อเนื่องจากการเพิ่มอัตราการจ้างงานผ่านโครงการ Restart Thailand กลุ่ม ปตท. และการพัฒนาทักษะเพื่อสร้างอาชีพอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรและชุมชนผ่านโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. โดยการดำเนินงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการส่งผลให้ ปตท. เป็นองค์กรที่มีผลคะแนนชีวัดความมีชื่อเสียงขององค์กร (Corporate Reputation Score) เป็นอันดับที่ 1 (86 คะแนน เท่ากับปี 2564) จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการดาเนินธุรกิจ ปตท. ในปี 2565

แผนงานเป้าหมายปี 2564ผลการดำเนินงานปี 2564เป้าหมายปี 2565ผลการดำเนินงานปี 2565
การสนับสนุนงบประมาณและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม อย่างน้อยร้อยละ 1-3 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (เป้าหมายปี 2563 2567) 1,271.04 ล้านบาท อย่างน้อยร้อยละ 1-3 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (เป้าหมายปี 2563 2567) ร้อยละ 1.66 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (1,086.4 ล้านบาท)
การสร้างวัฒนธรรม จิตอาสาภายในองค์กร เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 จึงขอเปลี่ยนเป้าหมายเป็น – ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสา จากพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) 20% (เทียบจากข้อมูลผู้เข้าร่วม 2 ปี ย้อนหลัง) จำนวนพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพิ่มขึ้น 75% (เทียบกับผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2 ปีย้อนหลัง) (140 คน) ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสา จากพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) 20% (เทียบจากข้อมูลผู้เข้าร่วม 2 ปี ย้อนหลัง จำนวนพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพิ่มขึ้น 75% (เทียบกับผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2 ปีย้อนหลัง) (249 คน)
การบริจาคในรูปแบบของสิ่งของและบริการ (In-kind Giving) NA 174.73 ล้านบาท NA 462.8 ล้านบาท
ค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม NA 58.62 ล้านบาท NA 67.8 ล้านบาท

แนวทางการจัดการ

นโยบายการสร้างคุณค่าทางสังคม ของ ปตท.  

ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ยึดมั่นในพันธกิจที่จะขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้บริหารจัดการประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยยึดแนวทางการลงทุนทางสังคมใน 2 มิติ คือ มิติการพัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL) และมิติการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) โดย ปตท. ดำเนินกิจการในระดับนโยบายและปฏิบัติการควบคู่กันไป ขณะเดียวกัน ได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามแนวทางปฏิบัติงานชุมชนสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าใจถึงบริบทและความต้องการของชุมชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสังคมและชุมชน ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ งบประมาณขององค์กร และความต้องการของชุมชน สนับสนุนให้พนักงานสละเวลาบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ ผ่านชมรมพลังไทยใจอาสาและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมวัฒนธรรมการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมของ ปตท.

โครงสร้างกำกับดูแล/ กลไก/ วิธีการบริหารจัดการ
โครงสร้างกำกับดูแล

ปตท. กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ทิศทางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ใน “แผนแม่บทการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปตท. 2564-2568” โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายระยะยาว ถ่ายทอดเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานในสายงานที่รับผิดชอบ (Functional KPI) ตลอดจนจัดทำเป็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยมีการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดต่อคณะกรรมการในระดับจัดการและคณะกรรมการ ปตท. ตาม โครงสร้างกำกับดูแล ที่กำหนด เป็นรายไตรมาส

กระบวนการ/ กลไกในการบริหารจัดการผลกระทบ

เพื่อให้การดำเนินงานด้านสนับสนุนชุมชนเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน ปตท. จึงได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานด้านชุมชนสัมพันธ์ เพื่อลดข้อกังวลต่าง ๆ และสร้างการยอมรับจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่



1) การระบุกลุ่มเป้าหมาย:

กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ครบถ้วนตามการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร และพิจารณาตามระดับความสนใจและอิทธิพลต่อการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร

2) การจัดลำดับความสำคัญของชุมชน:
ประเมินระดับความสำคัญของชุมชนที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร และกำหนดวิธีการและระดับการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่จำแนกตามระดับความสำคัญ จากผลสรุปที่ได้จากระดับความสนใจและอิทธิพลที่มีต่อโครงการ/ กิจกรรมขององค์กร

3) การจัดทำแผนงานการมีส่วนร่วมกับชุมชน:
นำข้อมูลชุมชนมาจัดทำเป็นแผนงานการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามระดับความสำคัญของชุมชนที่ได้จำแนกไว้

4) การดำเนินงานตามแผนการมีส่วนร่วมกับชุมชน:
ดำเนินงานการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามรูปแบบที่เหมาะสมและสะดวกกับชุมชน โดยมุ่งเน้นประเด็นและความสนใจในผลกระทบที่มีต่อชุมชนและคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

5) การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลชุมชน:
รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานการพัฒนาชุมชนทั้งหมดไว้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนประมวลผลให้เป็นฐานข้อมูลไว้สำหรับการติดตามความก้าวหน้าและการขยายผลตามพันธะสัญญาต่าง ๆ ที่ได้เห็นชอบและตกลงร่วมกันกับชุมชน

6) การตอบสนอง การติดตามผล และการดำเนินงานต่อเนื่อง:
พัฒนาความร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องให้กระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงประเมินผลการดำเนินงานและนำสิ่งที่พบมาปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานพัฒนาชุมชนต่อไป

การสร้างคุณค่าทางสังคม 

ปตท. มีความตั้งใจที่จะลงทุนดำเนินกิจการทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จึงได้ปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสม และได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานโดยพิจารณาจากปัจจัยภายในและภายนอก ได้แก่ กลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) การสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาในการเข้าถึงพลังงาน รวมถึงผลสำรวจความต้องการของสังคมชุมชน นอกจากนี้ ปตท. ยังมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหลักสำคัญในการดำเนินงาน สนับสนุนชุมชนในประเด็นต่าง ๆ ตามลำดับความต้องการของชุมชน โดย ปตท. เชื่อมั่นในศักยภาพของชุมชน จึงมุ่งดำเนินกิจการเพื่อสังคม เพื่อให้คนไทยร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศต่อไป

มาตรการแก้ไข/ ป้องกัน
การดำเนินงานเพื่อสังคมของ ปตท.

ปตท. ดำเนินงานด้านกิจการเพื่อสังคมตามกรอบการดำเนินงาน ใน 2 มิติ คือ ด้านการพัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL) และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) โดยมีรายละเอียดการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้


การพัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL)
การส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT)

พันธมิตรและความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ

สถาบันและวิสาหกิจเพื่อสังคม

สถาบันลูกโลกสีเขียว
สถาบันปลูกป่า
วิสาหกิจเพื่อสังคม

แนวทางการดำเนินงานเพื่อสังคม

แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (SOCIAL): ผ่านการส่งเสริมด้านการศึกษา
SDGs: 


ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาที่พนักงานใช้ในการดำเนินกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างรากฐานในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
  • สนับสนุนการพัฒนาครูในการพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) (ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6)
    71 คน และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)
    20 คน (ระดับปริญญาโท 2 คน และระดับปริญญาเอก 18 คน) ในปี 2565
  • จำนวนผลงานวิจัยจากสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC
    338 ผลงาน ในปี 2565
  • จำนวนโรงเรียนที่ได้รับประโยชน์จาก การส่งเสริมและพัฒนาด้านการศึกษา ผ่านโครงการ PTT Group Model School 109 โรงเรียน ในปี 2565
  • จำนวนงบประมาณสนับสนุนด้านกีฬา 189,937,005 บาท นักกีฬาได้รับประโยชน์มากกว่า 3,557 คน ในปี 2565
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • เพิ่มบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่ประเทศ
  • เพิ่มงานวิจัยและนวัตกรรมที่สนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศ
  • ส่งเสริมและสร้างทักษะทางด้านกีฬาให้แก่เยาวชน
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มงานวิจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยะยาวผ่านโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)
  • โครงการพัฒนาต้นแบบการศึกษา กลุ่ม ปตท. STEEM+4E (PTT Group Model School)
  • การสนับสนุนการงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา
  • จำนวนข่าวหรือสื่อที่มีการรายงานกิจกรรมการส่งเสริมด้านการศึกษาสู่สาธารณชนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
    423 ข่าวเผยแพร่ ในปี 2565
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • เกิดเครือข่ายในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม 
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • เชื่อมโยงการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมกับธุรกิจกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการต่อยอดพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ
  • เกิดเครือข่ายโรงเรียนในรัศมีรอบสถานประกอบการ
แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (SOCIAL): ผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมทักษะเพื่อสร้างอาชีพ และช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากสภาวะวิกฤต
SDGs: 
  
ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาพนักงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานให้แก่ชุมชนและองค์กร โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
  • เพิ่มรายได้ผ่านการเพิ่มศักยภาพชุมชน มุ่งเน้นการใช้ฐานทรัพยากรในพื้นที่ ผสมผสานกับองค์ความรู้และนวัตกรรม ไปจนถึงการส่งเสริมช่องทางจัดจำหน่าย
  • พัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงานผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ขาดโอกาส
  • สนับสนุนเพื่อช่วยเหลือสังคมด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและเศรษฐกิจในช่วงสภาวะวิกฤต
  • จำนวนผู้ได้รับการจ้างงานจากโครงการ Restart Thailand
    23,354 อัตราในปี 2565
  • จำนวนกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. 45 กลุ่ม (จาก 45 พื้นที่ทั่วประเทศ) ในปี 2565
  • 33 พื้นที่ (จาก 45 พื้นที่) มีรายได้เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายลดลงจากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างร้อยยิ้ม กลุ่ม ปตท.
    10% ของรายได้เดิม ในปี 2565
  • รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่าน Platform ชุมชนยิ้มได้
    28,375,482 ล้านบาท ในปี 2565 (61,505,102 ล้านบาทตั้งแต่เริ่มดำเนินงานในปี 2563)
  • จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านการสนับสนุนเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น 15,000 คน ในปี 2565
  • จำนวนผู้ด้อยโอกาสและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
    มากกว่า 348 คน ในปี 2565
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในครัวเรือน
  • เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน
  • เพิ่มการจ้างงานผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ขาดโอกาส
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • แก้ปัญหามลพิษแก่ชุมชน เช่น น้ำเสีย ขยะเศษอาหาร เป็นต้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำทางการเกษตร
โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • โครงการ Restart Thailand
  • โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.
  • โครงการชุมชนยิ้มได้
  •  การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
  • การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส
  • จำนวนข่าวหรือสื่อที่มีการรายงานกิจกรรมการส่งเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมทักษะเพื่อสร้างอาชีพ และช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากสภาวะวิกฤตสู่สาธารณชนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ข่าวหรือสื่อที่มีการรายงานกิจกรรมการส่งเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และส่งเสริมทักษะในการดำเนินธุรกิจสู่สาธารณชนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
    3,367 ข่าวเผยแพร่ ในปี 2565
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • ได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญมาใช้ช่วยเหลือสังคม 
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • สร้างเครือข่ายชุมชนรอบสถานประกอบการ และระดับประเทศ
  • ภาพลักษณ์การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet)
SDGs: 
ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาพนักงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • เพิ่มพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่สีเขียว เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจกและรักษาระบบนิเวศ
  • เชื่อมโยงการใช้ประโยชน์จากป่าหรือพื้นที่สีเขียวกับชุมชน สังคม
  • สร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่สังคม
  • พื้นที่สีเขียวสะสม 1,167,613 ไร่ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ในปี 2537 ถึง ปี 2565
  • มูลค่าการใช้ประโยชน์จากป่า 281 ล้านบาท เฉลี่ยต่อปี (อ้างอิงงานวิจัยผลสัมฤทธิ์โครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ครั้งที่ 4 ปี 2560-2561 (ทำงานวิจัยทุก 3 ปี))
  • ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บได้ (ทางตรงและทางอ้อม) จากการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรวม
    2.14 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เฉลี่ยต่อปี (อ้างอิงงานวิจัยผลสัมฤทธิ์โครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ครั้งที่ 4 ปี 2560-2561 (ทำงานวิจัยทุก 3 ปี))
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • เพิ่มรายได้จากการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน
  • ขับเคลื่อนเครือข่ายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มพื้นที่สีเขียวและป่า
  • เพิ่มการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก
  • รักษาระบบนิเวศ
คุณค่า/ประโยชน์ด้านอื่นๆ
  • เป็นแหล่งพักผ่อนและท่องเที่ยวให้แก่ประชาชนและหน่วยงานที่สนใจ



โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • การมีส่วนร่วมในการเพิ่มและรักษาฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า
  • การสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ และศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง
  • การมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านสถาบันลูกโลกสีเขียว
  • จำนวนผู้ได้รับประโยชน์ โดยตรงจากการเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ฯ
    ทั้ง 3 ศูนย์ รวม 54,442 คน ในปี 2565
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • การใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียวในพื้นที่รอบ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่
  • การใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า และศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ 3 แห่ง ของพนักงาน
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • สร้างเครือข่ายชุมชนรอบสถานประกอบการ และระดับประเทศ
  • ภาพลักษณ์การให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ
  • สร้างทักษะและความเชี่ยวชาญของพนักงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


ผลการดำเนินงานการลงทุนทางสังคม ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2563-2565)


มิติด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ชุมชน และสังคม (SOCIAL)

หน่วย
2563
2564
2565
ตัวชี้วัดระยะสั้น
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์สะสมจากการดำเนินงานด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) คน
ชุมชน
ครัวเรือน


62 คน
200 ครัวเรือน

115 คน
8 กลุ่ม
(ผู้ด้อยโอกาส)

255 ครัวรือน

348 คน
จำนวนผู้เข้ารับการศึกษา (ทุนการศึกษาเต็มจำนวน) โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) คน/ปี - 256 71
จำนวนโรงเรียนที่ได้รับประโยชน์จาก การส่งเสริมและพัฒนาด้านการศึกษา ผ่านโครงการ PTT Group Model School
โรงเรียน/ปี 139 109 109
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนด้านกีฬา คน/ปี 4,060 >685 3,557
จำนวนผู้ได้รับการจ้างงานจากโครงการ Restart Thailand คน/ปี - 25,489 23,354
จำนวนกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Farming
กลุ่ม/ปี

-

25
45
จำนวนสินค้าชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Marketing
SKU/ปี

-

255

31
จำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านการสนับสนุนเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น คน/ปี 12,970 23,000 15,000
จำนวนผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาคุณภาพชีวิต คน/ปี - >40 348
ตัวชี้วัดระยะยาว
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) บาท/ปี 6,798,989 7,397,753.78 >4,751,028

จำนวนผลงานวิจัยที่ยืนจดสิทธิบัตรแล้วของสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)

ผลงาน 18 32 16
รายได้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ลดลงของชุมชนในภาพรวมจากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างร้อยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Farming ล้านบาท/ปี - 6.5 33 พื้นที่ (จาก 45 พื้นที่)
เพิ่มขึ้น
10 % จากรายได้เดิม
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่าน Platform โครงการชุมชนยิ้มได้ บาท/ปี 7,140,672 23,192,894 28,375,482
ผลตอบแทนจากการลงทุนเชิงสังคม (Social Return on Investment; SROI)
- โครงการร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนเพื่อการสร้างโอกาส





ร้อยละ
10 7 7
- โครงการการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน 19 20.7 22.4
- โครงการ PTT Day Care 16 10 10
- โครงการ PTT Group Lounge 15 15 15
- โครงการบ้านเด็กหญิงธัญพร N/A 20  10
มิติด้านการส่งเสริมการอนุรักษ์และ
ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ENVIRONMENT)
หน่วย
2563
2564
2565
ตัวชี้วัดระยะสั้น
 พื้นที่สีเขียวและพื้นที่ป่าที่เพิ่มขึ้น ไร่ 1,167,613 1,167,613 1,167,613
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้ประโยชน์จากป่าและพื้นที่สีเขียว ครัวเรือน 6,647 6,647 6,647
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ คน/ปี 83,726 1,981 54,442
ตัวชี้วัดระยะยาว
ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บได้ (ทางตรงและทางอ้อม) จากการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวม          ตันคาร์บอน
ไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

2,140,000
2,140,000 2,140,000
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากป่า บาท/ปี 280,000,000 280,000,000 280,000,000

หมายเหตุ: อ้างอิงตามข้อมูลผลการดำเนินงานที่เปิดเผยในรายงานความยั่งยืนปี 2562 และ 56-1 One Report ปี 2563-2565

ตัวอย่างโครงการหรือกิจกรรมที่สำคัญ

โครงการลมหายใจเดียวกันและโครงการลมหายใจเพื่อน้องSDGs 3.8, 3.b

ประเด็นความยั่งยืน :  ด้านสังคม: สังคมไทยเราต้องอุ้มชู สร้างคุณค่าร่วมกันและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม การสร้างความเข้าใจ สัมพันธ์ และการมีส่วนร่วม รวมทั้งสนับสนุนสังคมและชุมชน / การช่วยเหลือและสนับสนุนเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการรณรงค์ด้านสาธารณสุข / การลงทุนด้านสังคมเพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของชุมชน

การดำเนินงาน
: กลุ่ม ปตท. ร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการลมหายใจเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2564 โดยการสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม การจัดหน่วยวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกในพื้นที่เปราะบางและมีความเสี่ยงสูง (ควบคู่กับการเดินหน้าโครงการ Restart Thailand เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการสร้างงานและรายได้) และเพิ่มศักยภาพการช่วยเหลือสูงสุดในการร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มูลนิธิโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกฯ และโรงพยาบาลปิยะเวท จัดตั้ง หน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) กลุ่ม ปตท. ต่อยอดจัดตั้งบริการ End-To-End Mobile @1745 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ระบบสาธารณสุขในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระดับมหภาคมาจนถึงระดับครัวเรือน และเด็กนักเรียนจำนวนมากที่เสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา นำมาสู่การจัดตั้ง โครงการลมหายใจเพื่อน้อง  ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของ ปตท. และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ต้องการนำเด็กหลุดจากระบบการศึกษากลับเข้าเรียนในปีการศึกษา 2565 คืนโอกาสให้แก่เด็กนักเรียนและเยาวชนในช่วงชั้นรอยต่อ โดยตั้งเป้าหมายมอบทุนการศึกษา 150 ล้านบาท ผ่าน กสศ. ให้แก่เยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 60,000 คนทั่วประเทศผ่านกิจกรรม PTT Virtual Run เพื่อแปลงกิจกรรมการเดินหรือวิ่งให้เป็นทุนการศึกษา ที่เป้าหมาย 600,000 กิโลเมตร โดยระยะทางทุก 10 กิโลเมตร จะมีมูลค่าเป็นทุนการศึกษาจำนวน 2,500 บาท ซึ่งสามารถพาน้องกลับโรงเรียนได้ 1 คน ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยความสำเร็จของ 600,000 กิโลเมตรแรกที่ครบระยะได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จุดประกายให้ ปตท. สานต่อกิจกรรมดังกล่าวด้วยเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม คือ 20 ล้านก้าวก๊อดจิ ให้กลายเป็นงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งกองทุนแรกเริ่มศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤติการศึกษา ช่วยเหลือเด็กที่เสี่ยงหลุดจากระบบอย่างฉุกเฉิน

ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย: ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ง่ายมากยิ่งขั้น ได้รับการสนับสนุนด้านเศรษกิจ และได้รับการส่งเสริมด้านการศึกษา

ประโยชน์ต่อ ปตท.: สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมในทุกมิติ เคียงข้างประเทศชาติให้ก้าวพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีในฐานะองค์กรที่ดีของสังคม นอกเหนือจากบทบาทการเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่มีภารกิจหลักสร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย