ความยั่งยืน

องค์กรที่ดีของสังคม

ความยั่งยืน

องค์กรที่ดีของสังคม

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
     
   





ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ 

ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ มีพันธกิจในการดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมกับการเป็นองค์กรที่ดีของสังคม ผ่านการมีความรับผิดชอบต่อสังคมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment)  สังคม (Social)  การกำกับดูแล (Governance) รวมถึงสิทธิมนุษยชน ร่วมกับบริษัทในเครือ บริษัทเครือข่ายพันธมิตร และเครือข่ายทางสังคมทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน (Business Relationships) โดยมีการจัดตั้งโครงสร้างการดำเนินงานโดยเฉพาะ ได้แก่ สายงานผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารจัดการชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม (ผสญ.) ประกอบด้วย 4 หน่วยงาน ได้แก่ ฝ่ายแผนกลยุทธ์บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม (กสญ.)  ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม (สคญ.) ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร (สภญ.) และสถาบันลูกโลกสีเขียว (สลข.) พร้อมทั้งกำกับดูแลบริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (SPSE)  และมูลนิธิพลังที่ยั่งยืน (มพย.) เพื่อประกอบกิจการทางสังคมในแต่ละมิติ ควบคู่ไปกับการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรจากผลกำไรทางธุรกิจในสัดส่วนร้อยละ 1-3 ของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ได้แก่ การกำหนดสัดส่วนการใช้งบประมาณให้มีความยั่งยืน โดยแบ่งสัดส่วนการบริจาคภายใต้กรอบร้อยละ 30 และเน้นการใช้งบประมาณผ่านการดำเนินโครงการเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) และการดำเนินงานในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ที่ร้อยละ 70 ของงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อมุ่งเน้นสร้างผลลัพธ์เชิงบวกทางสังคมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสะท้อนการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชนและขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำสำหรับโครงการ CSR และผลตอบแทนทางสังคม (SROI) มากกว่าหรือเท่ากับ 1.3 เท่าของการลงทุน สำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม ผ่านการดำเนินงานที่เสริมสร้างให้นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ได้รับการพัฒนาศักยภาพ และทักษะอาชีพ พร้อมสนับสนุนด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น สำหรับในส่วนของเยาวชน มุ่งให้ได้รับการส่งเสริมจากการพัฒนาการศึกษา รวมถึงเสริมสร้างทักษะครูผู้สอนและระบบการเรียนการสอนของสถานศึกษาให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ละทิ้งกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการส่งเสริมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติผ่านเครือข่ายชุมชนด้านสิ่งแวดล้อมของ ปตท.  ทั้งนี้การดำเนินงานจะต้องคำนึงและหลีกเลี่ยงถึงผลกระทบเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชุมชนจากการดำเนินงานดังกล่าว อาทิ ภายหลังจากเสร็จสิ้นโครงการที่ ปตท. เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานกับชุมชน  ชุมชนจะต้องสามารถดำเนินการในการโครงการนั้นๆ  ต่อได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน  และไม่ให้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ ปตท. ในภายหลัง  รวมถึงมีเกณฑ์ในการพิจารณาความเหมาะสมของการเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชน หรือเครือข่ายอย่างชัดเจน  เพื่อป้องกันผลกระทบในกรณีที่มีการดำเนินงานที่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ประกอบการของ ปตท. และอาจส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของชุมชนกับ ปตท. ได้ในอนาคต เป็นต้น ดังนั้น  ทุกกระบวนการเข้าไปทำงานกับชุมชน  จึงต้องครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการ ความคาดหวัง และข้อกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจ  ทั้งชุมชนรอบสถานประกอบการ ปตท.  ผู้ด้อยโอกาส  รวมถึงสังคม ชุมชน และเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรและสังคมชุมชนอย่างสมดุล ตลอดจนนำไปสู่ความยั่งยืนร่วมกันต่อไปในอนาคต

วัตถุประสงค์/ เป้าหมาย

ปี 2566 ปตท. บริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน สู่การเป็นองค์กรที่ดีของสังคม โดยยึดแนวทางการดำเนินงานสำคัญ 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ การกำกับดูแลองค์กร (Governance) ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ มุ่งหวังการสร้างความเข้มแข็ง มั่นคง ให้แก่สังคมไทยอย่างยั่งยืน ในมิติของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม พร้อมทั้งการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างการมีส่วนร่วม และบริหารจัดการผลกระทบของการดำเนินธุรกิจต่อชุมชนรอบสถานประกอบการ พร้อมทั้งกำกับดูแลกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมในภาพรวมของกลุ่ม ปตท. ผ่านแนวทางในการมุ่งเน้นการระดมความสามารถและความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทในกลุ่ม ปตท. มาบูรณาการร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมแบบองค์รวม ในปี 2566 ปตท. จัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนทางสังคมรวมทั้งสิ้น 1,018.79 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.08 ของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. (ตามนโยบายการจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนทางสังคม อย่างน้อยร้อยละ 1 - 3 ของกำไร จากการดำเนินงาน ตามนโยบายการจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนทางสังคม อย่างน้อยร้อยละ 1-3 ของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. (เป้าหมายปี 2563 - 2567) โดยจัดสรรสัดส่วนงบประมาณสำหรับการลงทุนทางด้านสังคมเป็น การสนับสนุนความช่วยเหลือในรูปแบบการบริจาค (Donation) ร้อยละ 26.83 การรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบโครงการ (Corporate Social Responsibility : CSR) ร้อยละ 71.61 และการดำเนินงานในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ร้อยละ 1.56 (เป้าหมายปี 2562 - 2566) กำหนดสัดส่วน Donation ไม่เกินร้อยละ 30 และ CSR รวมกับ SE ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานจากการลงทุนทางสังคมดังกล่าวในปี 2566 ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกมิติตามที่ได้กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น และจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้การดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนการดำเนินงานประจำปีที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามกลุ่ม ปตท. ไม่หยุดนิ่งที่จะต่อยอดการดำเนินงานเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. ด้านการศึกษา ผ่านโครงการ PTT Group School Model ที่พัฒนา “STEEM + 4E” ร่วมกับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ และสถาบันวิทยสิริเมธี และด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการส่งเสริมเครือข่ายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในโครงการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และสถาบันลูกโลกสีเขียว รวมถึงการส่งเสริมและสืบสานศิลปะไทยผ่านงานศิลป์ โดยเป็น1 ในองค์การที่จัดประกวดศิลปกรรม ปตท. ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 38 และเปิดพื้นที่ PTT Art Gallery @บ้านเจ้าพระยา เพื่อใช้แสดงงานศิลปะตลอดปี นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยสังคมในเรื่องภัยพิบัติ เมื่อประเทศอุทภัยและมีประชานได้รับความเดือนร้อน ก็จะดำเนินการผ่านการช่วยเหลือถุงยังชีพ ได้ทันต่อสถานการณ์ โดยการดำเนินงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการส่งผลให้ ปตท. เป็นองค์กรที่มีผลคะแนนชี้วัดความมีชื่อเสียงขององค์กร (Corporate Reputation Score) เป็นอันดับที่ 1 คิดเป็น 87 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 86 คะแนนในปี 2565 (จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการดำเนินธุรกิจ ปตท. ในปี 2566)

แผนงานเป้าหมายปี 2565ผลการดำเนินงานปี 2565เป้าหมายปี 2566ผลการดำเนินงานปี 2566
การสนับสนุนงบประมาณและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม อย่างน้อยร้อยละ 1-3 ของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. (เป้าหมายปี 2563 2567) ร้อยละ 1.66 ของกำไรจากการดำเนินงานของ ปตท. (1,086.4 ล้านบาท) 1,179.37 ล้านบาท 1,018.79 ล้านบาท
การสร้างวัฒนธรรม จิตอาสาภายในองค์กร ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสา จากพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) 20% (เทียบจากข้อมูลผู้เข้าร่วม 2 ปี ย้อนหลัง จำนวนพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา (New Comer) เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพิ่มขึ้น 75% (เทียบกับผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2 ปีย้อนหลัง) (249 คน) 550 คน 965 คน
การบริจาคในรูปแบบของสิ่งของและบริการ (In-kind Giving) NA 462.8 ล้านบาท NA 303.31 ล้านบาท
ค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม NA 67.8 ล้านบาท NA 86.7 ล้านบาท

แนวทางการจัดการ

นโยบายการสร้างคุณค่าทางสังคม ของ ปตท.  

ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ยึดมั่นในพันธกิจที่จะขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้บริหารจัดการประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยยึดแนวทางการลงทุนทางสังคมใน 2 มิติ คือ มิติด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน (SOCIAL) และมิติด้านการขับเคลื่อนสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (ENVIRONMENT) โดย ปตท. ดำเนินกิจการในระดับนโยบายและปฏิบัติการควบคู่กันไป ขณะเดียวกัน ได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามแนวทางปฏิบัติงานชุมชนสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าใจถึงบริบทและความต้องการของชุมชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสังคมและชุมชน ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ งบประมาณขององค์กร และความต้องการของชุมชน สนับสนุนให้พนักงานสละเวลาบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ ผ่านโครงการจิตอาสา และชมรมพลังไทยใจอาสา ตลอดจนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมวัฒนธรรมการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมของ ปตท.

โครงสร้างกำกับดูแล/ กลไก/ วิธีการบริหารจัดการ
โครงสร้างกำกับดูแล

ปตท. กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ทิศทางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ใน “แผนแม่บทการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปตท. 2564-2568” (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2) โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายระยะยาว ถ่ายทอดเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานในสายงานที่รับผิดชอบ (Functional KPI) ตลอดจนจัดทำเป็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยมีการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดต่อคณะกรรมการในระดับจัดการและคณะกรรมการ ปตท. ตาม โครงสร้างกำกับดูแล ที่กำหนด เป็นรายไตรมาส

กระบวนการ/ กลไกในการบริหารจัดการผลกระทบ

ปตท. มุ่งมั่นที่จะงดการดำเนินงานในพื้นที่คุ้มครองเพื่อให้การดำเนินงานด้านสนับสนุนชุมชนเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน ปตท. จึงได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานด้านชุมชนสัมพันธ์ เพื่อลดข้อกังวลต่าง ๆ และสร้างการยอมรับจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่



1) การระบุกลุ่มเป้าหมาย:

กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ครบถ้วนตามการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร และพิจารณาตามระดับความสนใจและอิทธิพลต่อการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร

2) การจัดลำดับความสำคัญของชุมชน:
ประเมินระดับความสำคัญของชุมชนที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ/กิจกรรมขององค์กร และกำหนดวิธีการและระดับการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่จำแนกตามระดับความสำคัญ จากผลสรุปที่ได้จากระดับความสนใจและอิทธิพลที่มีต่อโครงการ/ กิจกรรมขององค์กร

3) การจัดทำแผนงานการมีส่วนร่วมกับชุมชน:
นำข้อมูลชุมชนมาจัดทำเป็นแผนงานการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามระดับความสำคัญของชุมชนที่ได้จำแนกไว้

4) การดำเนินงานตามแผนการมีส่วนร่วมกับชุมชน:
ดำเนินงานการมีส่วนร่วมกับชุมชนตามรูปแบบที่เหมาะสมและสะดวกกับชุมชน โดยมุ่งเน้นประเด็นและความสนใจในผลกระทบที่มีต่อชุมชนและคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

5) การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลชุมชน:
รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานการพัฒนาชุมชนทั้งหมดไว้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนประมวลผลให้เป็นฐานข้อมูลไว้สำหรับการติดตามความก้าวหน้าและการขยายผลตามพันธะสัญญาต่าง ๆ ที่ได้เห็นชอบและตกลงร่วมกันกับชุมชน

6) การตอบสนอง การติดตามผล และการดำเนินงานต่อเนื่อง:
รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานการพัฒนาชุมชนทั้งหมดไว้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนประมวลผลให้เป็นฐานข้อมูลไว้สำหรับการติดตามความก้าวหน้าและการขยายผลตามพันธะสัญญาต่าง ๆ ที่ได้เห็นชอบและตกลงร่วมกันกับชุมชน

การสร้างคุณค่าทางสังคม 

ปตท. มีความตั้งใจที่จะลงทุนดำเนินกิจการทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จึงได้ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสม และได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานโดยพิจารณาจากปัจจัยภายในและภายนอกตามสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ได้แก่ กลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) การสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาในการเข้าถึงพลังงาน รวมถึงผลสำรวจความต้องการของสังคมชุมชน นอกจากนี้ ปตท. ยังมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหลักสำคัญในการดำเนินงาน สนับสนุนชุมชนในประเด็นต่าง ๆ ตามลำดับความต้องการของชุมชน โดย ปตท. เชื่อมั่นในศักยภาพของชุมชน จึงมุ่งดำเนินกิจการเพื่อสังคม เพื่อให้คนไทยร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศต่อไป

มาตรการแก้ไข/ ป้องกัน
การดำเนินงานเพื่อสังคมของ ปตท.

ปตท. ดำเนินงานด้านกิจการเพื่อสังคมตามกรอบการดำเนินงาน ใน 2 มิติ คือ มิติการด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน พัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL) และมิติการด้านการขับเคลื่อนสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) โดยมีรายละเอียดการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้


การพัฒนาคน ชุมชน และสังคม (SOCIAL)
การส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT)

พันธมิตรและความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ

สถาบันและวิสาหกิจเพื่อสังคม

สถาบันลูกโลกสีเขียว
สถาบันปลูกป่า
วิสาหกิจเพื่อสังคม

แนวทางการดำเนินงานเพื่อสังคม

แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (SOCIAL): ผ่านการส่งเสริมด้านการศึกษา
ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาที่พนักงานใช้ในการดำเนินกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างรากฐานในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
  • สนับสนุนการพัฒนาครูในการพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) (ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) สะสมรวม 422 คน และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) สะสมรวม 123 คน ในปี 2566
  • จำนวนผลงานวิจัยจากสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) 1,458 ผลงาน ในปี 2566
  • จำนวนโรงเรียนที่ได้รับประโยชน์จาก การส่งเสริมและพัฒนาด้านการศึกษา ผ่านโครงการ PTT Group Model School 109 โรงเรียน ในปี 2566
  • จำนวนนักกีฬาได้รับประโยชน์สะสมมากกว่า  20,000 คน ในปี 2566
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • เพิ่มบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่ประเทศ
  • เพิ่มงานวิจัยและนวัตกรรมที่สนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศ
  • ส่งเสริมและสร้างทักษะทางด้านกีฬาให้แก่เยาวชน
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มงานวิจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยะยาวผ่านโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)
  • โครงการพัฒนาต้นแบบการศึกษา กลุ่ม ปตท. STEEM+4E (PTT Group Model School)
  • การสนับสนุนการงบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา
  • จำนวนข่าวหรือสื่อที่มีการรายงานกิจกรรมการส่งเสริมด้านการศึกษาสู่สาธารณชนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร 433 ข่าวเผยแพร่ ในปี 2566
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • เกิดเครือข่ายในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม 
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • เชื่อมโยงการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมกับธุรกิจกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการต่อยอดพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ
  • เกิดเครือข่ายโรงเรียนในรัศมีรอบสถานประกอบการ
แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (SOCIAL): ผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมทักษะเพื่อสร้างอาชีพ และช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากสภาวะวิกฤต
ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาที่พนักงานใช้ในการดำเนินกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานให้แก่ชุมชนและองค์กร โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
  • เพิ่มรายได้ผ่านการเพิ่มศักยภาพชุมชน มุ่งเน้นการใช้ฐานทรัพยากรในพื้นที่ ผสมผสานกับองค์ความรู้และนวัตกรรม ไปจนถึงการส่งเสริมช่องทางจัดจำหน่าย
  • พัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงานผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ขาดโอกาส
  • สนับสนุนเพื่อช่วยเหลือสังคมด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและเศรษฐกิจในช่วงสภาวะวิกฤต
  • จำนวนผู้ได้รับการจ้างงานจากโครงการ Restart Thailand 23,358 อัตราในปี 2566 (อัตราจ้างสืบเนื่องจาก ปี 2565)
    จำนวนกลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. 45 พื้นที่ ใน 29 จังหวัด ในปี 2566 45 พื้นที่ ชุมชนมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่ากับ 10% และมากกว่า 5,000 บาท/ครัวเรือน/เดือน พัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ และสร้างการเข้าถึงช่องทางการตลาดให้แก่ชุมชนกว่า 1,400 ผลิตภัณฑ์ จาก 450 ชุมชน และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต่อเนื่องใน 6 พื้นที่ทั่วประเทศ
  • จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านการสนับสนุนเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น 23,000 คน ในปี 2566
  • จำนวนผู้ด้อยโอกาสและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่า 450 ชุมชน ในปี 2566
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในครัวเรือน
  • เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน
  • เพิ่มการจ้างงานผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ขาดโอกาส
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • แก้ปัญหามลพิษแก่ชุมชน เช่น น้ำเสีย ขยะเศษอาหาร เป็นต้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำทางการเกษตร
โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • โครงการ Restart Thailand
  • โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.
  • โครงการชุมชนยิ้มได้
  •  การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
  • การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส
  • จำนวนข่าวหรือสื่อที่มีการรายงานกิจกรรมการส่งเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมทักษะเพื่อสร้างอาชีพ และช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากสภาวะวิกฤตสู่สาธารณชนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร 3,372  ข่าวเผยแพร่ ในปี 2566
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • ได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญมาใช้ช่วยเหลือสังคม 
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • สร้างเครือข่ายชุมชนรอบสถานประกอบการ และระดับประเทศ
  • ภาพลักษณ์การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
แนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม:
การส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet)
ปัจจัยนำเข้า (Input) ผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Impact)
วิธีการดำเนินงาน (How) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
รูปแบบการสนับสนุน
  • งบประมาณ
  • เวลาพนักงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรม
  • การบริจาคในรูปแบบสิ่งของและบริการ
  • ต้นทุนค่าบริหารจัดการสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม
ประเด็นที่มุ่งแก้ไข
  • เพิ่มพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่สีเขียว เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจกและรักษาระบบนิเวศ
  • เชื่อมโยงการใช้ประโยชน์จากป่าหรือพื้นที่สีเขียวกับชุมชน สังคม
  • สร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่สังคม
  • พื้นที่สีเขียวสะสม 1,167,613 ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ในปี 2537 ถึง ปี 2566
  • มูลค่าการใช้ประโยชน์จากป่า 280,654,442  ล้านบาท เฉลี่ยต่อปี (อ้างอิงงานวิจัยผลสัมฤทธิ์โครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ครั้งที่ 4 ปี 2560-2561 (ทำงานวิจัยทุก 3 ปี)
  • ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บได้ (ทางตรงและทางอ้อม) จากการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรวมเฉลี่ย 2.14 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ได้รับรองการดูดซับ CO₂ สะสม
    ปี 2537–2560 รวม 32.51 MTonCO₂e (1.62 MTonCO₂e/ปี) (อ้างอิงงานวิจัยผลสัมฤทธิ์โครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ ครั้งที่ 4 ปี 2560-2561 (ทำงานวิจัยทุก 3 ปี)
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสังคม
  • เพิ่มรายได้จากการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน
  • ขับเคลื่อนเครือข่ายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณค่า/ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มพื้นที่สีเขียวและป่า
  • เพิ่มการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก
  • รักษาระบบนิเวศ
คุณค่า/ประโยชน์ด้านอื่นๆ
  • เป็นแหล่งพักผ่อนและท่องเที่ยวให้แก่ประชาชนและหน่วยงานที่สนใจ



โครงการ/กิจกรรม ด้านธุรกิจ ด้านธุรกิจ
  • การมีส่วนร่วมในการเพิ่มและรักษาฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า
  • การสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ และศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง
  • การมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านสถาบันลูกโลกสีเขียว
  • จำนวนผู้ได้รับประโยชน์ โดยตรงจากการเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ฯ ทั้ง 3 ศูนย์ รวม 63,176 คน ในปี 2566
คุณค่า/ประโยชน์ต่อพนักงาน
  • การใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียวในพื้นที่รอบ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่
  • การใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า และศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ 3 แห่ง ของพนักงาน
คุณค่า/ประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • สร้างเครือข่ายชุมชนรอบสถานประกอบการ และระดับประเทศ
  • ภาพลักษณ์การให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ
  • สร้างทักษะและความเชี่ยวชาญของพนักงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


ผลการดำเนินงานการลงทุนทางสังคม ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2564-2566)


มิติด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ชุมชน และสังคม (SOCIAL)

หน่วย
2564
2565
2566
ตัวชี้วัดระยะสั้น
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์สะสมจากการดำเนินงานด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) คน
ชุมชน
ครัวเรือน


115 คน
8 กลุ่ม
(ผู้ด้อยโอกาส)
255 ครัวเรือน

348 คน

494 คน
จำนวนผู้เข้ารับการศึกษา (ทุนการศึกษาเต็มจำนวน) โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) คน/ปี 256 71 69
จำนวนโรงเรียนที่ได้รับประโยชน์จาก การส่งเสริมและพัฒนาด้านการศึกษา ผ่านโครงการ PTT Group Model School
โรงเรียน/ปี 109 109 109
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนด้านกีฬา คน/ปี >685 3,557 20,000
จำนวนผู้ได้รับการจ้างงานจากโครงการ Restart Thailand คน/ปี 25,489  23,354  23,358
จำนวนกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Farming
กลุ่ม/ปี

25

45
45
จำนวนสินค้าชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Marketing
SKU/ปี

255

31

36
จำนวนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านการสนับสนุนเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น คน/ปี 23,000 15,000 23,000
จำนวนผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาคุณภาพชีวิต คน/ปี >40 348 494
ตัวชี้วัดระยะยาว
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) บาท/ปี 7,397,754 >4,751,028 >6,170,000

จำนวนผลงานวิจัยที่ยืนจดสิทธิบัตรแล้วของสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)

ผลงาน 32 16 75
รายได้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ลดลงของชุมชนในภาพรวมจากการดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างร้อยยิ้ม กลุ่ม ปตท.: Smart Farming ล้านบาท/ปี 6.5 33 พื้นที่ (จาก 45 พื้นที่)
เพิ่มขึ้น 10 % จากรายได้เดิม
45 พื้นที่ (จาก 45 พื้นที่) เพิ่มขึ้น 10% จากรายได้เดิม
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่าน Platform โครงการชุมชนยิ้มได้ บาท/ปี 23,192,894 28,375,482 28,848,622
ผลตอบแทนจากการลงทุนเชิงสังคม (Social Return on Investment; SROI)                                                                                                                      1.79 เท่า โดยเฉลี่ยจากการลงทุน
- โครงการร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนเพื่อการสร้างโอกาส





ร้อยละ
7 7 0.64
- โครงการการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน 20.7 22.4 3.47
- โครงการ PTT Day Care 10 10 0.2
- โครงการ PTT Group Lounge 15 15 0.2
- โครงการบ้านเด็กหญิงธัญพร 20 10  16.7
มิติด้านการส่งเสริมการอนุรักษ์และ
ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ENVIRONMENT)
หน่วย
2564
2565
2566
ตัวชี้วัดระยะสั้น
 พื้นที่สีเขียวและพื้นที่ป่าที่เพิ่มขึ้น ไร่ 1,167,613 1,167,613 1,167,613
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้ประโยชน์จากป่าและพื้นที่สีเขียว ครัวเรือน 6,647 6,647 6,647
จำนวนผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ คน/ปี 83,726 54,442 63,176
ตัวชี้วัดระยะยาว
ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บได้ (ทางตรงและทางอ้อม) จากการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวม          ตันคาร์บอน
ไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

2,140,000
2,140,000 2,140,000
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากป่า บาท/ปี 280,000,000 280,000,000 280,654,442

หมายเหตุ: อ้างอิงตามข้อมูลผลการดำเนินงานที่เปิดเผย One Report ปี 2564-2566

ตัวอย่างโครงการหรือกิจกรรมที่สำคัญ

     ด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน (Positive Contribution to Enhance Livelihood) กลุ่ม ปตท. เพิ่มขีดความสามารถชุมชนเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน โดยดำเนินงานโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม รายละเอียด ดังนี้
  • ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 - 2566 มุ่งพัฒนา 3 ส่วน ได้แก่ Smart Farming Smart Marketing และ Community Knowledge Management เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชุมชนจากการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งจากฐานทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ ตามหลัก BCG Model (Bioeconomy Circular Economy and Green Economy) ด้วยการประยุกต์ใช้เครือข่าย ความรู้ นวัตกรรมเทคโนโลยี ช่องทางการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายให้แก่ชุมชน
        o Smart Farming
                  เกษตรกร 485 ราย ในพื้นที่ทั่วประเทศครอบคลุม 29 จังหวัด ได้รับการสนับสนุนสู่การเป็น Smart Farmer
                  ยกระดับศูนย์เรียนรู้ 4 ภาค เป็น “ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมวิถีพอเพียง” โดยจัดเก็บและเชื่อมโยงความรู้และนวัตกรรมจากโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม พร้อมพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ 8 แห่งรวม 12                                     จุดเรียนรู้ ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้และพร้อมขยาย    ผลในวงกว้างต่อไป
        o Smart Farming
                  Community Product สินค้าชุมชน
                          - พัฒนาและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงช่องทางตลาดสินค้าชุมชนของโครงการชุมชนยิ้มได้ ทั้งผ่านทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีเป้าหมายสินค้าในแพลตฟอร์มกว่า 1,200                                                 SKUs  ผู้ได้รับประโยชน์กว่า 400 ชุมชน ปัจจุบันมีจำนวนสินค้าที่เข้าร่วมโครงการจากทุกช่องทางในปี 2566 จำนวน 1,400 SKUs จาก 450 ชุมชนทั่วประเทศ
                          - ผลิตภัณฑ์ชุมชนจำนวน 1,400 SKUs จาก 450 ชุมชน ได้รับการพัฒนาและยกระดับ ทั้งรูปแบบบรรจุภัณฑ์ คุณภาพ ตลอดจนส่งเสริมช่องทางการประชาสัมพันธ์และช่องทางการจำหน่าย
                          - สามารถเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายมากกว่าร้อยละ 10 ได้ 45 พื้นที่ ในปี 2566และผลักดันให้มีผลการดำเนินงานดังกล่าวครบทั้ง 45 พื้นที่ ในปี 2566
                          - Sales Channels เชื่อมโยงช่องทางการขายผลิตภัณฑ์มากกว่า 1,400 SKUsจาก 450 ชุมชน ยอดจำหน่ายปี 2566 รวม 2,084,548 บาท
                  Community-based Tourism (CBT) แหล่งท่องเที่ยวชุมชน
                          - รายได้เป้าหมายของทุกพื้นที่ต้องเพิ่มขึ้นจากก่อนการพัฒนาร้อยละ 10
                          - แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน 6 พื้นที่ ได้รับการเตรียมความพร้อม เพื่อยกระดับให้ได้รับมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้แก่ ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่,
                            ตำบลพิมาน อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม, ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลนาแห้ว อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย, ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัด                                                    พัทลุง, ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
          o  Community Knowledge Management
                  พื้นที่ต้นแบบ 8 แห่ง ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมวิถีพอเพียง 4 ภาค
                   หนังสือคู่มือ ชุดความรู้ประจำจุดเรียนรู้ ชุดความรู้นวัตกรรม
  • ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย : ชุมชนและกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั้งในด้านเศรษกิจ ด้านการศึกษา และสิ่งแวดล้อม ได้รับพัฒนาศักยภาพ การส่งเสริมให้มีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี
  • ประโยชน์ต่อ ปตท.: เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมในทุกมิติ เคียงข้างประเทศชาติให้ก้าวพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีในฐานะองค์กรที่ดีของสังคม นอกเหนือจากบทบาทการเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่มีภารกิจหลักสร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย